อำนาจปกครองบุตร ใครได้สิทธิ ศาลพิจารณาจากอะไร.png
เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-15

อำนาจปกครองบุตร ใครได้สิทธิ ศาลพิจารณาจากอะไร? 

อำนาจปกครองบุตรคืออะไร? 

อำนาจปกครองบุตร ใครได้สิทธิ ศาลพิจารณาจากอะไร (2).png

อำนาจปกครองบุตร หมายถึง สิทธิตามกฎหมายที่บิดามารดาหรือผู้ปกครองมีต่อบุตรผู้เยาว์หรือผู้อยู่ในปกครอง 

ได้แก่ 

  • การกำหนดที่อยู่ของบุตร 
  • การทำโทษบุตร เพื่อว่ากล่าวสั่งสอนหรือปรับพฤติกรรม โดยต้องไม่เป็นการกระทำทารุณกรรมหรือทำร้ายด้วยความรุนแรงต่อร่างกายหรือจิตใจ หรือกระทำโดยมิชอบ 
  • ให้บุตรทำการงานตามสมควรแก่ความสามารถและฐานานุรูป 
  • เรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 

ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 เราลองมาดูตัวอย่างคำพิพากษาฎีกากันครับ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 3461/2541 

"บุคคลอื่น" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567(4) หมายถึง บุคคลอื่นนอกจากผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร ซึ่งได้แก่บิดา มารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตร จำเลยมิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตรผู้เยาว์ จำเลยจึงไม่เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองของบุตรผู้เยาว์ตามกฎหมาย ย่อมไม่มีสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567(1) ถึง (4) 

การที่จำเลยกักบุตรผู้เยาว์ไว้ จึงเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ และเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ผู้เป็นมารดาของผู้เยาว์ย่อมมีสิทธิเรียกบุตรผู้เยาว์คืนจากจำเลยได้ 

ผู้ปกครองคืออะไร? 

ผู้ปกครอง หมายถึง บุคคลที่ไม่ใช่บิดาหรือมารดาของผู้เยาว์ แต่ศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองแทนบิดามารดา มีอำนาจปกครองแทนบิดาหรือมารดาของผู้เยาว์ 

ซึ่งอาจเป็นกรณีที่ผู้เยาว์ไม่มีบิดาและมารดา หรือบิดาและมารดาถูกถอนอำนาจปกครองตามกฎหมาย 

ซึ่งหากผู้เยาว์ยังมีบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งอยู่ จะตั้งผู้ปกครองไม่ได้ เว้นแต่บิดามารดาคนนั้นจะถูกถอนอำนาจปกครองเสียก่อน ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 ลองมาดูตัวอย่างคำพิพากษาฎีกากันครับ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 749/2542 

การที่จะตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์นั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1585 วรรคหนึ่ง ให้ตั้งได้เฉพาะกรณีผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดา ถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว 

เมื่อผู้เยาว์มีมารดา ซึ่งยังไม่ถูกถอนอำนาจปกครองอยู่ จึงไม่อาจตั้งผู้ปกครองได้ หากเป็นการขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองอีกคนหนึ่งนั้น ต้องเป็นที่แน่ชัดว่าผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดา ถูกถอนอำนาจปกครองไปแล้วทั้งสองคน 

คดีนี้แม้บิดาผู้เยาว์ ซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้วจะไม่ปรากฏชัดว่าจดทะเบียนสมรสกับมารดาผู้เยาว์หรือไม่ แต่ผู้ร้องก็ยอมรับว่าผู้เยาว์มีมารดาซึ่งทิ้งร้างไปอยู่ที่อื่น ยังไม่แน่ว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่ กรณีจึงยังไม่อาจตั้งผู้ปกครองเพื่อทำหน้าที่แทนบิดามารดาได้ 

นอกจากนี้ กฎหมายมิได้บังคับว่าผู้เยาว์ที่ไม่มีบิดามารดานั้นจะต้องตั้งผู้ปกครองให้กับผู้เยาว์เสมอไป 

กระทู้กฎหมายพร้อมคำตอบจากทนายความเรื่อง "อำนาจปกครองบุตร"

Q: การดูแลบุตรหลังอย่าร้าง

Q: เรื่องสิทธดูแลบุตร

Q: สิทธิดูแลบุตร ของฝ่ายชาย


พ่อกับแม่ ใครมีสิทธิในตัวลูกมากกว่ากัน?

อำนาจปกครองบุตร ใครได้สิทธิ ศาลพิจารณาจากอะไร (3).png

ก่อนที่เราจะบอกได้ว่า พ่อกับแม่ใครมีสิทธิในตัวลูกมากกว่ากันนั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่า บิดามารดาที่จะมีสิทธิในตัวลูกนั้น ต้องเป็นบิดามารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย 

ซึ่งกฎหมายไทยได้วางหลัก ความเป็นบิดาและมารดาโดยชอบด้วยกฎหมาย เอาไว้แต่ต่างกันดังนี้ 

1. ความเป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมาย 

สำหรับความเป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้วางหลักเอาไว้ใน มาตรา 1546 ว่า เด็กอันเกิดแต่หญิงใดให้ถือว่าเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นเสมอ ลองมาดูตัวอย่างคำพิพากษาฎีกากันครับ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 3290/2545 

เด็กหญิง อ. เป็นบุตรของโจทก์ที่ 1 กับจำเลย แม้มิได้จดทะเบียนสมรสกัน เด็กหญิง อ. ก็เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นมารดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 

2. ความเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย 

สำหรับความเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้วางหลักเอาไว้ใน มาตรา 1547 ว่าเด็กจะเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาต่อเมื่อ เข้ากรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าความเป็นบิดามารดาโดยชอบด้วยกฎหมายมีหลักเกณฑ์อย่างไรแล้ว ต่อมาเราจะมาพูดถึงเรื่องสิทธิในตัวบุตรของบิดาและมารดากันต่อ 

สิทธิในตัวบุตรของบิดาและมารดา

โดยกฎหมายวางหลักว่า ทั้งบิดาและมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิในตัวบุตรเท่ากัน 

เว้นแต่ คนใดคนหนึ่งถูกถอนอำนาจปกครองไม่ว่าจะโดยความยินยอมหรือตามคำสั่งศาลก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 ลองมาดูตัวอย่างคำพิพากษาฎีกากันครับ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 939/2563 

โจทก์ร่วมทั้งสองเป็นบิดามารดาผู้ตายซึ่งเป็นผู้เยาว์อยู่ภายใต้ปกครองของโจทก์ร่วมทั้งสองตามมาตรา 1566 


จดทะเบียนสมรสแล้ว ลูกเป็นสิทธิของใคร?

อำนาจปกครองบุตร ใครได้สิทธิ ศาลพิจารณาจากอะไร (4).png 

ตามที่กล่าวมาในหัวข้อก่อนแล้วว่า ไม่ว่าจะสมรสหรือไม่ เด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของมารดาเสมอ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 และ

หากบิดาและมารดาสมรสกันภายหลังจากที่ บุตรคลอดแล้วเด็กย่อมเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาด้วย ตามมาตรา 1547 และให้ถือว่าเด็กเป็นบุตรของบิดาย้อนกลับไปถึงวันที่เด็กเกิด

โดยสรุปก็คือ หากบิดาและมารดาสมรสกันในภายหลัง บิดาจดทะเบียนรับรองบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตร ลูกย่อมเป็นสิทธิของทั้งพ่อและแม่นั้นเอง 

ซึ่งเป็นไปตามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1557 เราลองมาดูตัวอย่างจากคำพิพากษาฎีกากันครับ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 7345/2560 

เดิม ป.พ.พ. มาตรา 1557 บัญญัติให้การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายมีผล (3) นับแต่วันมีคำพิพากษาถึงที่สุด ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นบุตร 

แต่ต่อมาได้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตราดังกล่าว นับแต่วันที่ 8 มีนาคม 2551 "ให้มีผลนับแต่วันที่เด็กเกิด" บทบัญญัติดังกล่าวมีผลให้เด็กมีฐานะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายย้อนหลังไปนับแต่วันที่เด็กเกิด ย่อมมีสิทธิได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูได้นับแต่วันคลอดและสามารถฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรรวมกันมาเป็นคดีเดียวกับการฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรได้ทีเดียว 

เมื่อโจทก์ฟ้องคดีภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แก้ไขเพิ่มเติม การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กำหนดให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูนับแต่วันที่โจทก์เกิดจนถึงวันฟ้องจึงชอบแล้ว หาใช่นับแต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามที่จำเลยฎีกาไม่ 

ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ลูกเป็นสิทธิของใคร? 

อำนาจปกครองบุตร ใครได้สิทธิ ศาลพิจารณาจากอะไร (5).png

ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่า เด็กเกิดแต่หญิงใด ให้ถือว่าเด็กนั้นเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้นเสมอ หญิงที่คลอดเด็กจึงเป็นมารดาของลูกเสมอตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1546 

แต่หากฝ่ายชายที่ไม่ได้จดทะเบียนกับฝ่ายหญิงต้องการให้เด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของตนเองด้วย โดยไม่ต้องจดทะเบียนสมรสกับหญิง กฎหมายก็ได้ให้ทางออกไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1547 ได้แก่ 

การจดทะเบียนรับรองบุตรในภายหลัง ก็จะทำให้ฝ่ายชายเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตรและมีสิทธิในตัวบุตรเท่ากับมารดานั่นเองครับ 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

พ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนกัน ลูกมีสิทธิรับมรดกไหม?

สามีภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส เอาทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมของอีกคนไปเป็นของตนเองฝ่ายเดียวทั้งหมด มีความผิดฐานใด ?

เรียกค่าเลี้ยงดูบุตรได้เท่าไร ไม่ได้จดทะเบียน ฟ้องได้ไหม

หย่าแล้วมีสิทธิอะไรบ้าง และลูกจะไปอยู่กับใคร?

อำนาจปกครองบุตร ใครได้สิทธิ ศาลพิจารณาจากอะไร (6).png

แม้ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงหย่ากันแล้ว ก็ไม่ทำให้สิทธิความเป็นบิดาและมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายสิ้นสุดลง

หมายความว่า ทั้งบิดาและมารดายังคงมีสิทธิในตัวบุตรทั้งคู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อมีการหย่าเกิดขึ้นเรื่องสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรเป็นประเด็นใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายควรจะนำมาตกลงกันอยู่แล้ว 

ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วหากเป็นการหย่าโดยความยินยอมทั้งสองฝ่ายจะต้องมาตกลงกันในเรื่องสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรแต่ละคน 

หากตกลงกันไม่ได้ ต้องให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาดเรื่องสิทธิการเลี้ยงดู หรือในกรณีที่เป็นการหย่าโดยคำพิพากษาก็ให้ศาลที่พิจารณาคดีเป็นผู้ชี้ขาดเรื่องสิทธิการเลี้ยงดู ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1520 

ในส่วนของหลักเกณฑ์ที่ศาลมักจะนำมาใช้ชี้ขาดว่าฝ่ายใดควรได้สิทธิการเลี้ยงดูนั้น

มีองค์ประกอบหลายอย่างเช่น 

  • ความสามารถในการเลี้ยงดู 
  • ความสมัครใจของบุตร 
  • ในกรณีเด็กอายุน้อยมารดามักจะมีโอกาสได้สิทธิมากกว่า 
  • ความประพฤติของแต่ละฝ่าย ฯ เป็นต้น 

ส่งท้าย

สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านที่จะสามารถนำความรู้ไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันหรือแก้ปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่และช่วยให้ผู้อ่านหาทางออกสำหรับปัญหานั้นได้นะครับ 

หากยังมีข้อสงสัยก็ควรจะรวบรวมข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐานทั้งหมดเข้าปรึกษาผู้รู้ เพื่อให้ได้คำตอบที่ละเอียดครบทุกประเด็นที่สงสัยและตรงกับข้อเท็จจริงของแต่ละคนมากขึ้นครับ

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
sanook ข่าวสด มติชน spring
cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “