
บทความนี้กล่าวถึงในกรณีที่ผู้กู้ส่งมอบรถยนต์ให้แก่ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้ที่ผู้กู้ยืมไปชำระค่าซ่อมรถยนต์
การที่ผู้กู้ส่งมอบรถยนต์ของตนเองให้แก่ผู้ให้กู้ในทันทีเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ กรณีนี้เข้าลักษณะเป็นการจำนำ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 747 กำหนดไว้ว่า "อันว่าจำนำนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จำนำ ส่งมอบสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้"
รถยนต์ถือเป็นสังหาริมทรัพย์นะคะ ผู้ให้กู้จึงอยู่ในฐานะผู้รับจำนำมีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะยึดทรัพย์ที่จำนำไว้ กล่าวคือ ผู้ให้กู้มีสิทธิยึดรถยนต์ไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้และค่าอุปกรณ์ครบถ้วน
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 758 กำหนดไว้ว่า "ผู้รับจำนำชอบที่จะยึดของจำนำไว้ได้ทั้งหมดจนกว่าจะได้รับชำระหนี้และค่าอุปกรณ์ครบถ้วน"
การที่ผู้ให้กู้ยึดรถยนต์ของผู้กู้ไว้โดยที่ยังไม่สามารถตกลงเรื่องยอดหนี้กันได้นั้น จึงเป็นเรื่องผิดสัญญาในคดีแพ่งที่ผู้กู้จะต้องฟ้องร้องขอให้ผู้ให้กู้รับชำระหนี้จำนำ
หรือฟ้องเรียกทรัพย์สินคืนจากผู้ให้กู้เท่านั้น กรณีนี้ไม่ถือว่าผู้ให้กู้หรือผู้รับจำนำรถยนต์ดังกล่าวมีความผิดฐานยักยอก
ผู้ให้กู้เจึงไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทางผู้กู้ซึ่งเป็นเจ้าของรถนต์ แต่เป็นเรื่องที่ผู้กู้จะต้องไปว่ากล่าวกันเป็นคดีแพ่ง
*สรุป ผู้กู้มอบรถยนต์ให้แก่ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้ ต่อมาตกลงยอดหนี้กันไม่ได้ การที่ผู้ให้กู้ยึดรถยนต์ไว้จนกว่าจะมีการชำระหนี้ ผู้ให้กู้ไม่มีความผิดฐานยักยอก
อ้างอิงมาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5025/2563
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว
สมัครเป็นทนายออนไลน์
แพล็ทฟอร์มรวบรวม
งานกฎหมายจากทั่วประเทศ



