คดีอาญา คืออะไร.png
เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-06

คดีอาญา หมายถึง คดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่กฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิด และกำหนดโทษไว้สำหรับการกระทำความผิดนั้น เช่น การฆ่า ทำร้ายร่างกาย หมิ่นประมาท ลักทรัพย์ ฉ้อโกง ยาเสพติด เป็นต้น 

โดยการกระทำที่เป็นความผิดอาญาในประเทศไทยนั้น ได้ถูกบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า บุคคลจะต้องรับโทษทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติให้เป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2

โดยจะเห็นได้ว่า หากการกระทำนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ แม้จะขัดต่อความสงบฯ ก็อาจไม่เป็นความผิดทางอาญาได้ 

ประเภทของคดีอาญา 

คดีอาญา คืออะไร (2).png

1. คดีอาญาที่เป็นความผิดต่อแผ่นดิน 

คดีอาญาแผ่นดิน หมายถึง คดีที่กระทบต่อสังคมโดยรวม หรือกระทบต่อความสงบสุขของประชาชน ซึ่งนอกจากจะมีบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้เสียหายแล้ว ยังถือว่าเสียหายต่อรัฐด้วย 

จึงทำให้รัฐมีอำนาจดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดได้ แม้ผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความก็ตาม (คดีความผิดที่ไม่สามารถยอมความได้) เช่น ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง ความผิดฐานลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ เป็นต้น 

2. คดีอาญาที่เป็นความผิดต่อส่วนตัว 

คดีความผิดต่อส่วนตัว หมายถึง คดีที่ไม่ได้กระทบต่อสังคมส่วนรวม โดยกระทบต่อตัวผู้เสียหายที่เป็นเอกชนเป็นหลัก 

ซึ่งเมื่อความผิดนั้นไม่กระทบต่อสังคมแล้ว รัฐจึงไม่ถือเป็นผู้เสียหาย ส่งผลให้ความผิดต่อส่วนตัวนั้นสามารถยอมความกันได้ (คดีความผิดอันยอมความได้) หากผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีกับผู้กระทำต่อไป เช่น ความผิดฐานหมิ่นประมาท ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ความผิดฐานฉ้อโกง (แต่ไม่รวมถึง ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะเกิดความเสียหายขึ้นในวงกว้าง ซึ่งกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมจึงถือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน) เป็นต้น 

คดีความผิดต่อแผ่นดิน vs คดีความผิดต่อส่วนตัว

  • ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า คดีอาญาแผ่นดินนั้น รัฐถือเป็นผู้เสียหายด้วย ดังนั้น แม้คดีนั้นผู้เสียหายจะไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว รัฐก็ต้องดำเนินคดีต่อไป และยังสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้ เพียงแต่การที่ผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดี อาจเป็นผลประกอบการลงโทษของศาลเท่านั้น 
  • ส่วนคดีความผิดต่อส่วนตัว หรือคดีความผิดอันยอมความได้ รัฐไม่ถือเป็นผู้เสียหาย หากผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดี โดยถอนฟ้อง ถอนคำร้องทุกข์ หรือยอมความกันตามกฎหมายแล้ว คดีย่อมเป็นอันระงับไปทันที และศาลไม่อาจนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพราะการกระทำนั้นได้อีก (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)) 

โทษทางอาญา 

กฎหมายได้กำหนดโทษทางอาญาไว้สำหรับลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 โดยกำหนดไว้ 5 สถาน ดังนี้ 

  1. ประหารชีวิต: เป็นโทษสูงสุด ใช้กับคดีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยชัดแจ้งเท่านั้น
  2. จำคุก: เป็นการคุมขังในเรือนจำตามกำหนดเวลาที่ศาลพิพากษา ระยะเวลามากน้อยขึ้นกับความผิดที่กระทำ หากบทกฎหมายกำหนดโทษ “จำคุกและปรับ” ศาลอาจมีดุลพินิจ “ลงแต่โทษจำคุก” ก็ได้
  3. กักขัง: เป็นการจำกัดเสรีภาพ “นอกเรือนจำ” ณ สถานที่ที่ศาลกำหนด 
  4. ปรับ: เป็นโทษทางทรัพย์สิน จำนวนเงินที่ต้องจ่ายขึ้นกับความผิด หากไม่ชำระค่าปรับโดยไม่มีเหตุอันสมควร อาจต้อง “จำคุกแทนค่าปรับ” ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด 
  5. ริบทรัพย์สิน: ศาลมีอำนาจสั่งริบ “ของกลาง” หรือทรัพย์สินที่ใช้ มีไว้เพื่อใช้กระทำความผิด หรือได้มาโดยการกระทำความผิด ยกเว้นทรัพย์นั้นเป็นของบุคคลภายนอกผู้สุจริตที่ไม่รู้เห็นเป็นใจ 

การฟ้องคดีอาญาต้องดำเนินการอย่างไร 

ตามกฎหมายกำหนดให้บุคคลที่สามารถฟ้องคดีอาญาได้ ได้แก่  พนักงานอัยการและผู้เสียหาย (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28) 

1. การฟ้องคดีอาญาโดยพนักงานอัยการ 

การฟ้องคดีโดยพนักงานอัยการนั้น พนักงานอัยการเปรียบเสมือนทนายความของแผ่นดินซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ฟ้องผู้กระทำความผิดแทนรัฐหรือผู้เสียหาย แต่พนักงานอัยการจะฟ้องคดีอาญาใดได้นั้น ต้องผ่านการสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนก่อน และการสอบสวนนั้นต้องชอบด้วยกฎหมาย (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120) 

ในทางปฏิบัติเมื่อมีความเสียหายหรือมีการกระทำความผิดขึ้น ผู้เสียหายต้องไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนการสอบสวน ส่งพนักงานอัยการ เพื่อให้พนักงานอัยการฟ้องคดีต่อศาลต่อไป 

2. การฟ้องคดีอาญาโดยผู้เสียหาย 

นอกจากพนักงานอัยการแล้ว ผู้เสียหายยังมีสิทธิฟ้องผู้กระทำความผิดด้วยตนเองได้ โดยทางปฏิบัติผู้เสียหายมักจะ ปรึกษาหรือว่าจ้างทนายความ เพื่อให้ดำเนินการฟ้องคดีแทน 

ซึ่งเมื่อผู้เสียหายหรือทนายความยื่นคำฟ้องต่อศาลแล้ว ศาลจะยังไม่ประทับรับฟ้องทันที แต่จะดำเนินไต่สวนมูลฟ้องก่อนว่า คดีนั้นมีมูลหรือไม่ ซึ่งหากคดีมีมูลศาลจึงจะประทับรับฟ้องและคดีจึงเข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลต่อไป 

อายุความคดีอาญา 

อายุความ หมายถึง ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งหากไม่ดำเนินการภายในกำหนดอายุความ จะถือได้ว่าคดีขาดอายุความ

ทำให้สิทธินำคดีนั้นมาฟ้องระงับไป ศาลก็ไม่สามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้ (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(6)) 

โดยระยะเวลาหรืออายุความที่กฎหมายกำหนดให้ฟ้องผู้กระทำความผิดและนำตัวผู้กระทำความผิดมาศาลนั้น ได้ถูกบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 ดังนี้

  • 20 ปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 20 ปี 
  • 15 ปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่า 7 ปีแต่ยังไม่ถึง 20 ปี 
  • 10 ปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่า 1 ปีถึง 7 ปี 
  • 5 ปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่า 1 เดือนถึง 1 ปี 
  • 1 ปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 เดือนลงมา หรือต้องระวางโทษอย่างอื่น 

อย่างไรก็ตาม หากความผิดนั้นเป็น ความผิดต่อส่วนตัว หรือความผิดอันยอมความได้ หากผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีก็เป็นขาดอายุความเช่นกัน 

โดยไม่ต้องพิจารณาว่าขาดอายุความตามมาตรา 95 แล้วหรือไม่ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96


สิทธิผู้ต้องหาและจำเลย ในคดีอาญา 

คดีอาญา คืออะไร (3).png

1. สิทธิของผู้ต้องหา (ผู้ถูกจับ)

คือ บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด แต่ยังไม่ได้ถูกฟ้องต่อศาล

มีสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 7/1 และมาตรา 134/1 มีดังนี้

  • ขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ที่ตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมตัว 
  • ขอให้รัฐจัดหาทนายความให้ 
  • พบและปรึกษาทนายความ 
  • ให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตน
  • ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อญาติ 
  • ได้รับการรักษาพยาบาล เมื่อมีอาการเจ็บป่วย 
  • สิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ 

2. สิทธิของจำเลย 

คือ บุคคลที่ ถูกฟ้องคดีต่อศาลแล้ว โดยข้อหาว่ากระทำความผิด

มีสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 มีดังนี้ 

  • ศาลต้องถามจำเลยว่า "มีทนายความหรือไม่" หากไม่มีศาลต้องตั้งทนายความให้ (ในคดีที่มีโทษประหารชีวิต หรือ คดีที่จำเลยอายุไม่เกิน 18 ปีในวันที่ถูกฟ้อง)
  • ศาลต้องตั้งทนายให้ หากถามแล้วจำเลยต้องการทนายความ ในคดีที่มีโทษจำคุก

หากไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด จะถือว่า กระบวนพิจารณานั้นเป็นอันไม่ชอบ เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา ศาลอาจสั่งให้ย้อนสำนวนไปยังศาลชั้นต้น ให้ทำการพิจารณาใหม่และปฏิบัติให้ถูกต้อง

 

 

การประกันตัวในคดีอาญา 

คดีอาญา คืออะไร (4).png

การขอประกันตัว หรือ ปล่อยชั่วคราว หมายถึง การขออนุญาตให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยพ้นจากการควบคุมของเจ้าพนักงานหรือศาลตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยถูกควบคุมหรือขังนานเกินกว่าความจำเป็น 

ซึ่งเป็นไปตามหลักของรัฐธรรมนูญ (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 29) 

หลักเกณฑ์การพิจารณา

โดยหลักการพิจารณาว่าสมควรให้ประกันตัวหรือปล่อยชั่วคราว ต้องพิจารณาประกอบหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108) 

  • ความหนักเบาของข้อหา
  • พยานหลักฐานที่ปรากฏ
  • พฤติการณ์แห่งคดี
  • ความน่าเชื่อถือของผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกัน
  • ผู้ต้องหาหรือจำเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่ 
  • ความเสียหายที่อาจเกิดจากการปล่อยชั่วคราว 

ภาระการพิสูจน์ในคดีอาญา 

คดีอาญา คืออะไร (5).png

ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์  จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ ซึ่งเป็นหลักคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา

ดังนั้น ในคดีอาญาพนักงานอัยการหรือผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิด จึงต้องมีภาระการพิสูจน์ก่อนเสมอว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริงตามฟ้อง 

ศาลจะลงโทษได้ต่อเมื่อ พิสูจน์จนปราศจากข้อสงสัยอันสมเหตุสมผล และ หากยังมีความสงสัยตามสมควร ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

การไกล่เกลี่ยในคดีอาญา 

ในคดีอาญาแม้จะเป็นกฎหมายที่กำหนดความผิดและโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดไว้ แต่ก็สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยกันได้ 

โดยเฉพาะความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความได้ หากผู้เสียหายและผู้กระทำความผิดสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยและตกลงยอมความกันได้ คดีก็เป็นอันระงับไป 

สำหรับคดีอาญาแผ่นดินนั้น แม้โดยหลักแล้วไม่สามารถยอมความเพื่อให้คดีระงับไปได้ แต่ผู้เสียหายและผู้กระทำความผิดก็สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ โดยหากสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยจนผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแก่ผู้กระทำความผิดได้แล้ว ก็อาจเป็นเหตุให้ศาลนำมาบรรเทาโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด และลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษให้แก่ผู้กระทำความผิดได้ 

ตัวอย่างคดีอาญาที่พบบ่อย

  1. คดีหมิ่นประมาท:  รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการหมิ่นประมาทในทางกฎหมาย
  2. คดีฉ้อโกง: ความผิดฐานฉ้อโกงอย่างละเอียด
  3. คดีทำร้ายร่างกาย: เมื่อถูกทำร้ายร่างกาย ต้องรีบไปแจ้งความหรือไม่
  4. คดีลักทรัพย์: ลักทรัพย์นายจ้างยอมความได้ไหม?
  5. คดีอนาจาร:"อนาจาร" หมายความว่าอะไร การกระทำแบบไหนเป็น ...

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
sanook ข่าวสด มติชน spring
cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “