เผยแพร่เมื่อ: 2025-11-05

การได้สิทธิและเสียสิทธิของทายาทโดยธรรม : การถูกตัดมิให้รับมรดก

กฎหมายลักษณะมรดกของไทยปรากฏตามบรรพ 6 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินของผู้ตาย รวมทั้งเกี่ยวข้องกับสิทธิหน้าที่ความรับผิดทั้งหมดของผู้ตาย 

หากบุคคลใดถึงแก่ความตายโดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์มรดกย่อมตกลงแก่ทายาทโดยธรรมตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 

แต่หากมีการทำพินัยกรรมไว้ทรัพย์มรดกย่อมตกแก่ผู้รับตามเจตนาของผู้ทำพินัยกรรม อย่างไรก็ตามสิทธิอันชอบธรรมทั้งหลายอาจเสียไปได้ด้วยเหตุผลและวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมาย

โดยบทความนี้จะเจาะลึกถึงประเด็นการได้สิทธิและเสียสิทธิของทายาทโดยธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการถูกตัดมิให้รับมรดก ตั้งแต่วิธีการที่กฎหมายรับรอง ผลทางกฎหมาย ตลอดจนการถอนการตัดสิทธิ เพื่อให้ผู้อ่านได้ความรู้และมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

การได้สิทธิของทายาทโดยธรรม

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 วรรคแรก “เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท” กล่าวคือ เมื่อบุคคลถึงแก่ความตายไม่ว่าจะโดยธรรมชาติหรือโดยผลของกฎหมาย (การถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ) มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาททันทีที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1600 “ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กองมรดกของผู้ตายได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้” กล่าวคือ กองมรดกของผู้ตายได้แก่ ทรัพย์สินทุกชนิด ตลอดจนสิทธิ หน้าที่ความรับผิดต่าง ๆ ทายาทต้องรับไปซึ่งทรัพย์สินและหนี้สิน จะขอเลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ 

ประเภททายาท

บุคคลจะเป็นทายาทและมีสิทธิได้รับมรดกก็ต่อเมื่อมีสภาพบุคคลอยู่ในเวลาที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย บุคคลใดหากตายไปก่อนเจ้ามรดกก็จะไม่มีสิทธิได้รับมรดกของเจ้ามรดก ดังนั้น สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ไม่มีสภาพบุคคลที่จะมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายจึงไม่อาจเป็นทายาทได้ ซึ่งทายาทมีสองประเภท ตามมาตรา 1603 คือ 

  1. ทายาทโดยธรรม
  2. ผู้รับพินัยกรรม

1. ทายาทโดยธรรม 

บุคคลธรรมดาที่กฎหมายกำหนดให้มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตาย โดยไม่จำเป็นต้องมีพินัยกรรมระบุชื่อไว้ อาศัยเพียงสิทธิของตนเองโดยทางตรงหรือทางอ้อมตามกฎหมาย ซึ่งทายาทโดยธรรมแบ่งได้เป็นสองประเภท ได้แก่ ญาติและคู่สมรส

ลำดับทายาทโดยธรรมประเภทญาติ

มาตรา 1629 วางหลักว่า “ทายาทโดยธรรมมี 6 ลำดับชั้น และภายใต้บังคับ แห่งมาตรา 1630 วรรคสอง แต่ละลำดับมีสิทธิ์ได้รับมรดกก่อนหลัง ดังต่อไปนี้ 

  1. ผู้สืบสันดาน
  2. บิดามารดา
  3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
  4. พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
  5. ปู่ ย่า ตา ยาย
  6. ลุง ป้า น้า อา

คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม ภายใต้บังคับของบทบัญญัติพิเศษแห่งมาตรา 1635”

2. ทายาทโดยธรรมประเภทคู่สมรส 

เป็นทายาทโดยธรรมประเภทพิเศษ ไม่อยู่ในหลักญาติสนิทตัดญาติห่างจึงมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งมรดกเสมอ ตามมาตรา 1635 ในกรณีที่คู่สมรสยังมีชีวิต การมีสิทธิได้รับมรดกนั้นจะต้องเป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย คือ ต้องจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายกับผู้ตาย การที่ยังมิได้หย่าขาดจากกันทำให้ยังมิได้สิ้นไปซึ่งสิทธิในการสืบมรดกซึ่งกันและกันตามมาตรา 1628 


การเสียสิทธิของทายาทโดยธรรม

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1599 วรรคท้าย “ทายาทอาจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น” โดยเหตุแห่งการเสียสิทธิในการรับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มีเหตุอยู่ 4 ประการ ดังนี้

  • การกำจัดมิให้รับมรดก
  • การตัดมิให้รับมรดก
  • การสละไม่รับมรดก
  • การเสียสิทธิโดยอายุความ

โดยบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะการเสียสิทธิประเภทการตัดมิให้รับมรดกเท่านั้น

การตัดมิให้รับมรดก

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1608 “เจ้ามรดกจะตัดทายาทโดยธรรมของตนคนใดมิให้รับมรดกก็ได้แต่ด้วยแสดงเจตนาชัดแจ้ง

(1) โดยพินัยกรรม

(2) โดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

ตัวทายาทผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกนั้นต้องระบุไว้ให้ชัดเจน

แต่เมื่อบุคคลใดได้ทำพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์มรดกเสียทั้งหมดแล้ว ให้ถือว่าบรรดาทายาทโดยธรรมผู้ที่มิได้รับประโยชน์จากพินัยกรรม เป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก”

กล่าวคือ ก่อนเจ้ามรดกถึงแก่ความตายสามารถแสดงเจตนาระงับสิทธิของทายาทโดยการตัดมิให้รับมรดกได้และไม่จำเป็นต้องแสดงสาเหตุของการเสียสิทธิดังกล่าว เป็นการกระทำของเจ้ามรดกซึ่งไม่ประสงค์ที่จะให้ทรัพย์มรดกของตนตกทอดแก่ทายาทคนใดก็จะทำการตัดทายาทคนนั้นออกจากกองมรดก 

ซึ่งบุคคลที่เจ้ามรดกจะตัดมิให้รับมรดก ได้แก่ ทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกเท่านั้น ไม่รวมถึงผู้รับพินัยกรรมด้วย 

การแสดงเจตนาตัดมิให้รับมรดกนั้นจะต้องชัดเจนว่าตัดทายาทคนใดต้องไม่คลุมเครือ อาจไม่ระบุชื่อทายาทคนนั้นก็ได้ แต่ต้องระบุสถานะ คุณสมบัติ หรือลักษณะเด่นบางอย่างให้รู้ได้ว่าหมายถึงทายาทคนใด หากเจ้ามรดกไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน ถือได้ว่ามิได้เป็นการตัดมิให้รับมรดก

วิธีการตัดมิให้รับมรดก

มาตรา 1608 ทายาทโดยธรรมอาจถูกเจ้ามรดกตัดมิให้รับมรดกได้ 3 วิธี กล่าวคือ

1. การแสดงเจตนาแจ้งชัดโดยพินัยกรรม  

กรณีตามมาตรา 1608 วรรคหนึ่ง (1) เจ้ามรดกได้แสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายของตนไว้ โดยต้องทำอย่างสมบูรณ์ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดให้เป็นพินัยกรรม ถ้าหากไม่สมบูรณ์เป็นพินัยกรรมย่อมไม่มีผลใด ๆ ต่อการตัดทายาทมิให้รับมรดกตามที่ระบุในเอกสารนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6258/2546 

ในการจัดทำเอกสารหมาย ค.29 ตามคำเบิกความของนายแพทย์ ส. และนางสาว พ. ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นแพทย์ผู้ตรวจรักษาและเป็นพยานในหนังสือดังกล่าวไม่ได้ความแน่ชัดว่า ผู้ตายได้ลงลายมือชื่อในเอกสารนี้ต่อหน้าพยานทั้งสองหรือไม่ นอกจากนี้ เอกสารฉบับนี้ก็ยังมีการลบและเติมข้อความในช่องเดือนและปี พ.ศ. ที่ระบุถึงวันจัดทำเอกสารดังกล่าวด้วย โดยผู้ตายเป็นเจ้ามรดกไม่ได้ลงลายมือชื่อกำกับไว้แต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงถือไม่ได้ว่า เอกสารหมาย ค. 29 เป็นพินัยกรรม ที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่มีผลเป็นการตัดผู้ร้องทั้งสองและทายาทโดยธรรมตามที่มีการระบุไว้นั้นมิให้รับมรดกโดยการทำเป็นพินัยกรรม ผู้ร้องทั้งสองมีอำนาจฟ้องคดีนี้

2. การแสดงเจตนาแจ้งชัดโดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ 

 กรณีตามมาตรา 1608 วรรคหนึ่ง (2) โดยเจ้ามรดกไม่จำเป็นต้องเขียนเองแต่ต้องลงลายมือชื่อของตนเองไว้ในหนังสือ แล้วมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กระทำการได้ตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ นายอำเภอ หากอยู่ในกรุงเทพมหานครให้มอบไว้แก่ผู้อำนวยการเขต ทั้งนี้ ไม่รวมถึงเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งในหนังสือที่มอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องมีข้อความชัดเจนว่าเป็นการตัดทายาทคนใด การตัดมิให้รับมรดกโดยวิธีนี้มีผลทันทีที่ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย แม้เจ้าพนักงานจะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2520 

ส. ทำหนังสือตัดมิให้ ท. ซึ่งเป็นบุตร ส ได้รับมรดกของตน โดยปลัดอำเภอออกไปทำให้ที่บ้าน ส. ในวันหยุดราชการ หนังสือตัดมิให้รับมรดนี้ใช้บังคับได้ หาก ท. ตายก่อน ส. จำเลยซึ่งเป็นบุตรของ ท. เข้ารับมรดกของ ส. แทนที่ ท. ไม่ได้

3. การตัดมิให้รับมรดกโดยปริยาย 

กรณีตามมาตรา 1608 วรรคสอง เป็นการทำพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์มรดกของตนเสียทั้งหมด โดยต้องระบุให้เห็นว่าไม่มีทรัพย์สินใด ๆ หลงเหลืออยู่นอกพินัยกรรมอีกเลย ทายาทอื่นที่มิได้รับประโยชน์จากพินัยกรรมจึงเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับพินัยกรรมไปในตัว เนื่องจากทรัพย์มรดกตกแก่ผู้รับพินัยกรรมไปหมดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2558 

การที่ผู้ตายระบุในพินัยกรรมว่า "ถ้าผู้ตายไม่มีบุตรเพราะไม่เป็นไปตามที่ภริยารับรองก็ให้ทรัพย์สินส่วนของผู้ตายตกแก่ ป. เพียงผู้เดียว" แสดงว่าผู้ตายไม่รู้ว่าผู้ร้องไม่สามารถมีบุตรได้ ข้อกำหนดในพินัยกรรมจึงมีผลสมบูรณ์ เมื่อผู้ตายทำพินัยกรรมโดยระบุว่ามีความจำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสกับผู้ร้อง ต่อมาผู้ตายก็ได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ร้อง ครั้นผู้ตายถึงแก่ความตาย ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องมีบุตรกับผู้ตายดังผู้ร้องรับรองกับผู้ตายไว้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตายตามข้อกำหนดในพินัยกรรม ตามมาตรา 1608 (1) เป็นการตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับทรัพย์มรดกโดยพินัยกรรม ตามมาตรา 1608 วรรคท้าย


ผลของการตัดมิให้รับมรดก

การตัดมิให้รับมรดกโดยพินัยกรรมมีผลบังคับเมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตายลง หากเป็นการตัดมิให้รับมรดกโดยหนังสือย่อมมีผลทันที ส่วนการตัดมิให้รับมรดกด้วยวาจาไม่สามารถทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2480 

เจ้ามรดกจะตัดทายาทมิให้รับมรดกได้ก็ต้องแสดงเจตนาด้วยการทำพินัยกรรมหรือทำเป็นหนังสือจะตัดด้วยปากเปล่าไม่ได้ และทายาทโดยธรรมผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก จะหมดสิทธิในการรับมรดกและไม่มีฐานะเป็นทายาทอีกต่อไป ทายาทนั้นไม่อาจยกอายุความมรดกขึ้นต่อสู้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7200/2540 

แม้จำเลยจะเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก แต่เมื่อเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้ผู้อื่นทั้งหมดโดยจำเลยไม่ได้รับมรดกเลย จำเลยจึงเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1608 วรรคท้ายไม่อยู่ในฐานะเป็นทายาทของเจ้ามรดกที่ยกอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 1755 มาใช้ยันต่อ จ. ผู้รับพินัยกรรมและโจทก์ทั้งสี่ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของ จ. ได้

การที่ทายาทถูกตัดมิให้รับมรดกไม่ได้มีผลตัดเฉพาะตัวทายาทเท่านั้น แต่มีผลตลอดสายของทายาทคนนั้นเป็น “การตัดตลอดสาย” ทำให้ผู้สืบสันดานของผู้นั้นถูกตัดสิทธิมิให้รับมรดกไปด้วย 

การตัดมิให้รับมรดกไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะตัวของทายาทผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก และไม่มีบทบัญญัติให้สืบสิทธิหรือรับมรดกแทนที่กันได้ และแม้ทายาทผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกจะถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดก ก็ไม่สามารถรับมรดกแทนที่ได้ ทรัพย์มรดกส่วนที่ทายาทผู้ถูกตัดควรได้รับต้องนำไปแบ่งปันแก่ทายาทอื่นตามกฎหมายต่อไป

การตัดมิให้รับมรดกโดยพินัยกรรม 

ต้องถอนโดยพินัยกรรมเท่านั้น เช่น เพิกถอนพินัยกรรมหรือข้อกำหนดพินัยกรรม ทำพินัยกรรมฉบับใหม่ หรือขีดฆ่าทำลายพินัยกรรมฉบับเก่า จะใช้หนังสือถอนการตัดมิให้รับมรดกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10809/2559 

ทายาทโดยธรรมผู้ที่มิได้รับประโยชน์จากพินัยกรรม ย่อมเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1608 ดังนั้น โจทก์ทั้งเจ็ดจึงถูกตัดโดยผลของพินัยกรรม ทำให้ไม่มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตาย โจทก์ทั้งเจ็ดจึงไม่มีอำนาจฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายตามฟ้องจากจำเลยได้

การถอนการตัดมิให้รับมรดก

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1609  “การแสดงเจตนาตัดมิให้รับมรดกนั้นจะถอนเสียก็ได้

ถ้าการตัดมิให้รับมรดกนั้นได้ทำโดยพินัยกรรม จะถอนเสียได้ก็แต่โดยพินัยกรรมเท่านั้น แต่ถ้าการตัดมิให้รับมรดกได้ทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ การถอนจะทำตามแบบใดแบบหนึ่งดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา 1608 (1) หรือ (2) ก็ได้”

เมื่อเจ้ามรดกได้แสดงตัดทายาทคนใดมิให้รับมรดกแล้ว อาจถอนการแสดงเจตนานั้นก็ได้ โดยแบ่งเป็น สองกรณี คือ 

  • สามารถถอนได้ด้วยพินัยกรรม 
  • ทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีผลทันทีเมื่อส่งมอบหนังสือการถอนการตัดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่จำเป็นต้องทำหนังสือถอน ณ สถานที่เดียวกับที่ได้ทำหนังสือตัดมิให้รับมรดก

บทท้าย

การตัดมิให้รับมรดกต้องเป็นการแสดงเจตนาชัดแจ้งของเจ้ามรดกเพื่อตัดสิทธิทายาทโดยธรรมเท่านั้นไม่ใช้กับผู้รับพินัยกรรม โดยทำได้สองวิธีคือ

  1. ตัดโดยพินัยกรรม 
  2. ตัดโดยทำหนังสือมอบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ 

รวมถึงกรณีการพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์มรดกทั้งหมดของตน ทายาทที่มิได้รับประโยชน์ย่อมเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกโดยปริยาย 

ซึ่งผลของตัดการมิให้รับมรดก คือ ทายาทผู้นั้นจะหมดสิทธิรับมรดกและมีผลเป็นการตัดตลอดสายผู้สืบสันดานของผู้นั้นถูกตัดสิทธิมิให้รับมรดกไปด้วย อย่างไรก็ดี การตัดมิให้รับมรดกอาจถูกเพิกถอนได้ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนด 

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
sanook ข่าวสด มติชน spring
cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “