
กฎหมายการบินโดรน และการขออนุญาต
ปัจจุบันเทคโนโลยีการถ่ายภาพและทางการทหารได้พัฒนาไปอย่างมาก โดรนจึงกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการบินโดรนเพื่อถ่ายภาพมุมสูงที่สวยงามตระการตา การใช้โดรนเพื่อลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงภัย หรือแม้กระทั่งการขนส่งสินค้าในพื้นที่ห่างไกล ความสามารถที่หลากหลายของโดรนทำให้มันกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน การใช้งานโดรนก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบและข้อกำหนดทางกฎหมายที่ผู้ใช้งานทุกคนต้องตระหนักถึง บทความนี้ Legardy จะพาผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับกฎหมายโดรน ล่าสุด ให้ฟังกันครับ
โดรน (Drone) คืออะไร?
โดรนหรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า อากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle - UAV) คือ อากาศยานที่สามารถบินและควบคุมได้โดยไม่ต้องมีนักบินอยู่บนเครื่อง โดยตัวโดรนนันมีหลายขนาดและหลายรูปร่าง ตั้งแต่เล็กเท่าฝ่ามือไปจนถึงใหญ่เท่าเครื่องบินเล็ก
โดรนนั้นสามารถสั่งการได้ด้วยอาศัยระบบควบคุมระยะไกล หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า ทำให้สามารถบินได้อย่างอิสระและควบคุมได้ โดรนส่วนใหญ่มักติดตั้งกล้องถ่ายภาพหรือวิดีโอ ทำให้สามารถบันทึกภาพจากมุมสูงได้อย่างสวยงาม
ปัจจุบัน โดรนถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายด้าน ทั้งในการใช้งานในชีวิตประจำวันและการทหาร
- การถ่ายภาพและวิดีโอ ใช้ในการถ่ายภาพและวิดีโอทางอากาศสำหรับงานต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ โฆษณา การสำรวจพื้นที่ และการท่องเที่ยว
- การเกษตร ใช้ในการสำรวจพื้นที่เพาะปลูก พ่นยาฆ่าแมลง และตรวจสอบสุขภาพของพืช
- การขนส่ง ใช้ในการขนส่งสินค้าขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกลหรือเข้าถึงยาก
- การกู้ภัยและช่วยเหลือ ใช้ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ หรือพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก
- การทหาร ใช้ในการลาดตระเวน สอดแนม และโจมตีทางอากาศ
Q: สอบถามเรื่องกฏหมายการบินโดรนครับ
กฎหมายบินโดรน กฎหมายโดรน2567 ล่าสุด
1.การขอขึ้นทะเบียน
สำหรับโดรนที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัม การดำเนินการตามกฎหมายมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย ผู้ครอบครองโดรนจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขึ้นทะเบียนกับทั้งสองหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
การขึ้นทะเบียนกับ กพท. เป็นการขึ้นทะเบียน "ผู้บังคับอากาศยานโดรน" ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งก่อนทำการบินโดรน การขึ้นทะเบียนนี้เปรียบเสมือนการขอ "ใบขับขี่โดรน" ซึ่งจะทำให้ผู้บังคับอากาศยานได้รับอนุญาตให้ทำการบินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
การขึ้นทะเบียนกับ กสทช. เป็นการขึ้นทะเบียน "ขออนุญาตใช้คลื่นความถี่" ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากโดรนต้องใช้คลื่นความถี่ในการควบคุมและสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ควบคุมภาคพื้นดินและตัวโดรน
แม้ว่าผู้ครอบครองโดรนจะได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่จาก กสทช. แล้ว ก็ยังไม่สามารถทำการบินได้จนกว่าจะได้รับหนังสือการขึ้นทะเบียนผู้บังคับอากาศยานโดรนจาก กพท. ซึ่งถือเป็นการรับรองว่าผู้บังคับอากาศยานมีความรู้ความสามารถในการบังคับโดรนได้อย่างปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมาย
2.โดรนแบบไหนบ้างที่ต้องขึ้นทะเบียนโดรน
- โดรนที่ติดตั้งกล้องบันทึกภาพต้องขึ้นทะเบียนโดรนทุกกรณี
- โดรนที่น้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม ต้องลงทะเบียนทุกกรณี
- โดรนที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมขึ้นไป (ต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม)
- โดรนที่ไม่ติดตั้งกล้องบันทึกภาพและน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมไม่ต้องขึ้นทะเบียน
โดยหนังสือการขึ้นทะเบียนโดรนมีอายุ 2 ปี ตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ หากไม่ได้ลงทะเบียนผู้บังคับโดรนจะมีบทลงโทษ ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 24 ประมวล มาตรา 78
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ก่อนทำการบิน
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าโดรนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและปลอดภัย นอกจากตรวจสอบตัวโดรนแล้วต้องตรวจสอบระบบควบคุมด้วย
- ก่อนทำการบินต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่หรือผู้มีอำนาจในพื้นที่นั้นๆก่อนทำการบินทุกครั้ง
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่และระดับความสูงที่จะทำการบินอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าการบินโดรนนั้นเป็นไปอย่างปลอดภัย
- วางแผนสำหรับกรณีฉุกเฉินหากเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงแผนการรักษาพยาบาลและแผนรองรับในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมโดรนได้
- ทำการบำรุงรักษาโดรนอย่างสม่ำเสมอตามคู่มือของผู้ผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าโดรนนั้นพร้อมใช้งานและปลอดภัยเสมอ
- ผู้บังคับโดรนต้องมีความรู้ความชำนาญในการบังคับโดรนรวมถึงระบบต่างๆ
- ผู้บังคับโดรนต้อมีความรู้ความเข้าใจในกฎจราจรทางอากาศ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
- ให้นำหนังสือการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานติดตัวไว้ตลอดขณะที่ทำการบิน
- จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับดับเพลิง โดยอุปกรณ์นั้นต้องใช้งานได้และต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลาที่ทำการบิน
- ทำประกันภัยอากาศยานเพื่อรับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่ร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก โดยวงเงินประกันภัยต้องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่ออุบัติเหตุต่อครั้ง และกรมธรรม์ประกันภัยต้องอยู่ติดกับหนังสือการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยาน และต้องต่ออายุกรมธรรม์ล่วงหน้าก่อนวันสิ้นอายุไม่น้อยกว่า 30 วัน
4.ระหว่างการบิน
- ห้ามดำเนินการบินอากาศยานในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน หรือส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของผู้อื่น
- ห้ามบินในเขตหวงห้าม ห้ามดำเนินการบินอากาศยานในบริเวณเขตหวงห้าม เขตกำกัด และเขตอันตรายตามที่ประกาศในเอกสารแถลงข่าวการบินของประเทศไทย รวมถึงสถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ และโรงพยาบาล เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่
- แนวการบินขึ้นลงของอากาศยานจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อการบิน
- ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานต้องสามารถมองเห็นอากาศยานได้ด้วยตาเปล่าตลอดเวลาที่ทำการบิน และห้ามทำการบังคับอากาศยานโดยอาศัยชุดกล้องบนอากาศยานหรืออุปกรณ์อื่นที่มีลักษณะใกล้เคียง
- ต้องทำการบินในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งสามารถมองเห็นอากาศยานได้อย่างชัดเจน
- ห้ามทำการบินเข้าใกล้หรือเข้าไปในเมฆ เพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็นและการควบคุมอากาศยาน
- ห้ามทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราว
- ห้ามทำการบินโดยใช้ความสูงเกิน 90 เมตร (300 ฟุต) เหนือพื้นดิน
- ห้ามทำการบินเหนือเมือง หมู่บ้าน ชุมชน หรือพื้นที่ที่มีคนมาชุมนุมอยู่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
- ห้ามบังคับอากาศยานเข้าใกล้อากาศยานซึ่งมีนักบิน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางอากาศ
- ห้ามทำการบินละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น เช่น การถ่ายภาพหรือวิดีโอโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ห้ามทำการบินโดยก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความรำคาญ หรือความเสียหายแก่ผู้อื่น
- ห้ามส่งหรือพาวัตถุอันตรายตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรืออุปกรณ์ปล่อยแสงเลเซอร์ติดไปกับอากาศยาน
- ห้ามทำการบินโดยมีระยะห่างในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้าง หรืออาคารที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบินน้อยกว่า 30 เมตร (100 ฟุต) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม และ 50 เมตร (150 ฟุต) ในกรณีอากาศยานที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 กิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 กิโลกรัม
- เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแก่อากาศยาน ให้ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานแจ้งอุบัติเหตุนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยไม่ชักช้า
เขตห้ามบินโดรน พื้นที่ห้ามบินโดรน
1. เขตห้ามบินโดยเด็ดขาด
- บริเวณโดยรอบเขตพระราชฐาน ในระยะ 19 กิโลเมตรจากเขตพระราชฐาน
- พื้นที่ควบคุมของทหาร ค่ายทหาร สถานที่ฝึกซ้อมรบ หรือพื้นที่ที่ทางทหารประกาศเป็นเขตหวงห้าม
- พื้นที่รอบเรือนจำและทัณฑสถาน ในระยะ 9 กิโลเมตร
- พื้นที่ควบคุมของตำรวจ สถานีตำรวจ หรือพื้นที่ที่ทางตำรวจประกาศเป็นเขตหวงห้าม
- พื้นที่ใกล้สนามบิน ในระยะ 9 กิโลเมตรจากสนามบิน หรือตามที่ประกาศกำหนดเป็นพื้นที่ห้ามบิน
2. เขตห้ามบินโดยไม่ได้รับอนุญาต
สถานที่ราชการสำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ศาล
พื้นที่การจราจรทางอากาศ บริเวณใกล้ทางหลวงแผ่นดิน ทางรถไฟ หรือเส้นทางคมนาคมอื่น ๆ ที่มีการจราจรหนาแน่น
พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย: โรงไฟฟ้า เขื่อน โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
พื้นที่ที่มีความสำคัญทางสิ่งแวดล้อม: อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ
พื้นที่จัดงานหรือกิจกรรมสาธารณะ: งานเทศกาล คอนเสิร์ต หรือกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก
3.สามารถตรวจสอบผ่าน google earth ได้ด้วยนะครับ
1.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น google earth
2.สามารถตรวจสอบตามลิงค์นี้ได้เลย https://www.caat.or.th/th/archives/20455
3.พื้นที่สีแดง คือพื้นที่ที่ห้ามบินหรือต้องขออนุญาตก่อนทำการบินนะครับ
ต้องการค้นหาด้านกฎหมายใช่ไหม ? สามารถค้นหาบทความ, คำปรึกษาจริง, มาตราที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ !
ใบอนุญาตบินโดรน ขออนุญาตบินโดรนในพื้นที่
วิธีขึ้นทะเบียนโดรนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.1 ขึ้นทะเบียนโดรน ลงทะเบียนโดรน
ทำที่ กสทช. (NBTC) หรือผ่าน https://anyregis.nbtc.go.th/accounts/login/?next=/lr-kt30/0/
โดยให้เตรียมเอกสารไปดังนี้
- บัตรประชาชนผู้ครอบครอง (ตัวจริง)
- Serial Number ของโดรน
- ภาพถ่ายของโดรน (หากเป็นโดรนที่ประกอบเองให้นำโดรนไปด้วยครับ)
- กรอกแบบฟอร์ม
- หากเป็นร้านค้า ให้นำบัญชีแสดงรายการโดรนไปด้วย
1.2 ขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน
ทำที่ สำนักงานการบินพลเรือน (CAAT) หรือผ่าน https://uav.caat.or.th/index.php
โดยให้เตรียมเอกสารไปดังนี้
- กรอกคำขอขึ้นทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์
- หนังสือรับรองอายุไม่เกิน 6เดือน (กรณีที่เป็นนิติบุคคล)
- แบบฟอร์มรับรองตนเองพร้อมลงนาม (สำหรับนิติบุคคลให้กรรมการทุกคนลงชื่อ)
- สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง (สำหรับนิติบุคคลให้กรรมการทุกคนลงชื่อ)
- ประกันภัยบุคคลที่ 3 ที่วงเงินไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท
- ภาพถ่ายโดรนที่สามารถเห็น Serial Number ได้
โดรนแบบไหนไม่ต้องขึ้นทะเบียน
ตามกฎหมายปัจจุบัน โดรนที่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนมีคุณสมบัติตามนี้ครับ
- ไม่มีกล้องบันทึกภาพติดตั้ง
- มีน้ำหนักไม่เกิน 250 กรัม
ถ้าโดรนของคุณมีคุณสมบัติตรงตามนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนกับ กสทช. หรือ กพท. ครับ
สรุป
การบินโดรนนั้นไม่ใช่คิดจะใช้ก็ใช้ได้เลยต้องศึกษาข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับในการใช้งานโดรนในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การขออนุญาตบิน ข้อกำหนดและข้อจำกัดในการบิน ไปจนถึงบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนและเพื่อให้การบินโดรนเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย
หากมีข้อสงสัยต้องการปรึกษาทนายความเพื่อหาทางออกกฎหมาย สามารถติดต่อผ่าน Legardy ได้ตลอด 24ชั่วโมงครับ
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว
สมัครเป็นทนายออนไลน์
แพล็ทฟอร์มรวบรวม
งานกฎหมายจากทั่วประเทศ



