accident-1497295.jpg
เผยแพร่เมื่อ: 2024-07-22

ชนแล้วหนีต้องระวังโทษหนัก !

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วสิ่งที่ต้องทำเลยคือ “ห้ามหนี!” ต่อให้เป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม เพราะว่าตามกฎหมายนั้นได้กำหนดโทษที่หนักสำหรับคนหนี บทความนี้ Legardy จะพาทุกท่านมารู้จักกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชนแล้วหนีและแบบไหนที่เรียกว่าชนแล้วหนีกันครับ

man-is-calling-insurrance-company-claiming-his-car-crash-damaged-road-accident.jpg
ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แล้วหลบหนีจากที่เกิดเหตุ

การกระทำแบบไหนบ้างที่นับว่าเป็นการชนแล้วหนีบ้าง

ชนแล้วหนี คือ การกระทำความผิดทางกฎหมายจราจร ที่ผู้ขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือยานพาหนะอื่นๆ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แล้วหลบหนีจากที่เกิดเหตุ โดยไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ หรือไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่กฎหมายกำหนด

1.การขับรถชนแล้วไม่หยุดรถ

ผู้ขับขี่ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้วไม่หยุดรถในทันที แม้ว่าจะไม่ได้ขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุก็ตาม ถือว่าเป็นการชนแล้วหนี

2.การไม่ให้ความช่วยเหลือ

ถึงแม้ว่าผู้ขับขี่ได้ทำการหยุดรถแล้ว แต่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่คู่กรณี เช่น ไม่โทรเรียกรถพยาบาล ไม่โทรแจ้งตำรวจ ไม่พยายามช่วยเหลืองเบื้องต้น ก็ถือว่าเป็นการชนแล้วหนีเช่นกัน

3.การไม่แสดงตัว

ผู้ขับขี่ที่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทันที ก็ถือว่าเป็นการชนแล้วหนี

4.การหลบหนีจากที่เกิดเหตุ

ผู้ขับขี่ที่ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ โดยไม่หยุดรถ ไม่ให้ความช่วยเหลือ และไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการชนแล้วหนีที่ชัดเจนที่สุด

การชนแล้วหนีไม่เพียงแต่หมายถึงการขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ แต่ยังรวมถึงการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดหลังจากเกิดอุบัติเหตุด้วย

หากเกิดอุบัติรถชนแล้วต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง หาคำตอบได้ที่นี่ !


ชนแล้วหนี โทษ  

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 กำหนดให้ผู้ขับขี่ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ต้องหยุดรถและให้ความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นการโทรแจ้งตำรวจ โทรแจ้งกู้ภัย เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น หากไม่ปฎิบัติตาม มาตรา78 มีโทษดังนี้

กรณีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต มาตรา 160(2) 

จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรณีมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต มาตรา 160(2) วรรคสอง

จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ศาลตัดสินว่าหากผู้ขับขี่ผิดฐานขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต แถมยังชนแล้วหนีอีก ผู้ขับขี่จะต้องรับโทษเพิ่มอีกกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนดไว้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุก็ตาม อีกทั้งคนที่ชนแล้วหนีนั้น จะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าว่าเป็นฝ่ายประมาทและต้องรับโทษทางอาญา ซึ่งการที่จะไปแก้ตัวหรือให้ปากคำเพิ่มเติมนั้นจะเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก อีกทั้งหากตำรวจตามรถที่ชนแล้วหนีเจอ บุคคลนั้นต้องมาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากไม่มีบุคคลใดมาแสดงถึงความเป็นเจ้าของรถ หรือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ภายใน6เดือน รถคันดังกล่าวจะถูกยึดและเป็นของหลวงเพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด

อ่านคำปรึกษาจริงพร้อมคำตอบจากทนายความเรื่อง "ชนแล้วหนี" คลิกเลย !

Q: โดนชนแล้วหนี ลูกบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล

Q: ผมจะเข้าข่ายชนแล้วหนีไหม

Q: ผมโดนรถเฉี่ยวชนแล้วหนีตอนนี้ จะฟ้องร้องยังไงได้บ้างครับ


โดนชนแล้วหนี เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี เรียกร้องอะไรได้บ้าง   

1.ค่ารักษาพยาบาล

ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนโดยผู้เสียหายสำรองจ่ายก่อนแล้วนำใบเสร็จไปเบิกกับคู่กรณีภายหลัง

ค่ารักษาพยาบาลสามารถสามารถใช้สิทธิอะไรได้บ้าง หาคำตอบได้ที่นี่ !

2.ค่ากายภาพบำบัด

เมื่อรักษาพยาบาลเสร็จแล้ว ก็ย่อมต้องมีการฟื้นฟูร่างกาย สามารถเรียกค่ากายภาพบำบัดจากคู่กรณีได้

3.ค่าเดินทางไปรักษา

ค่าใช้จ่ายหากต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นเดินทางผ่านbts หรือค่าน้ำมันก็ตาม

4.ค่าจ้างคนเฝ้าไข้

ค่าใช้จ่ายในการจ้างคนดูแลผู้บาดเจ็บในระหว่างการรักษาตัว

5.ค่าขาดรายได้

ค่าชดเชยรายได้ที่ผู้บาดเจ็บต้องสูญเสียไปเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เช่น เงินเดือน ค่าจ้างรายวัน

6.ค่าเสียหายที่ไม่ใช่ตัวเงิน 

7.ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต

ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ

8.ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ค่าชดเชยสำหรับการสูญเสียประโยชน์จากการใช้รถยนต์ที่เสียหาย เช่น ค่าเช่ารถ ค่าเดินทาง

9.ค่าปลงศพ/ค่าจัดงานศพ/ค่าขาดไร้อุปการะ

ในกรณีที่ผู้เสียหายเสียชีวิต ทายาทมีสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ และค่าชดเชยสำหรับการสูญเสียรายได้จากผู้เสียชีวิต

 

 


road-accident-with-smashed-cars_342744-677.jpg

ชนแล้วหนี ยอมความได้ไหม ชนแล้วหนีไกล่เกลี่ยได้ไหม ? 

ชนแล้วหนีผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา ทางแพ่งคือค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุครั้งนั้น รวมไปถึงการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน อีกทั้งผิดทางอาญาโทษฐานชนแล้วหนี

คดีแพ่ง

หากไกล่เกลี่ยเจรจากันได้อย่างลงตัว ก็สามารถยอมความคดีแพ่งได้ครับ

คดีอาญา

ไม่สามารถยอมความได้ ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ เนื่องจากชนแล้วหนีนั้นเป็นความผิดอาญาแผ่นดินต่อให้เจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความหรือไม่เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีอำนาจในการดำเนินคดีตามกฎหมาย

แม้จะมีการยอมความกันในเรื่องค่าเสียหายแล้ว ผู้กระทำผิดก็ยังคงต้องรับโทษตามกฎหมายอาญาที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานชนแล้วหนี


ชนแล้วหนี อายุความ

ทางกฎหมายการชนแล้วหนีถือเป็นความผิดทางอาญา ที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่มีอายุความนานถึง 15 ปี


ชนแล้วหนี ประกันจ่ายไหม    

การคุ้มครองกรณีรถชนแล้วหนีของประกันรถยนต์แต่ละชั้น โดยสามารถแบ่งแยกแต่ละชั้นได้ดังนี้

  • ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณี สามารถเคลมได้ทันที
  • ประกันชั้น 2+ และ 3+ คุ้มครองกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น หากสามารถระบุตัวตนรถคู่กรณีได้ หรือมีหลักฐานบันทึกเหตุการณ์ ก็สามารถเคลมได้
  • ประกันชั้น 2 และ 3 ไม่คุ้มครองกรณีชนแล้วหนี เจ้าของรถต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ชนแล้วหนี แจ้งความ โดนชนแล้วหนี แจ้งความ

ให้ไปทำการลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ และร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะว่าใบบันทึกประจำวันนั้นเปรียบเสมือนหลักฐานยืนยันได้ว่าถูกชนแล้วหนีจริงๆ แต่โดยปกติแล้วเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมา ณ จุดเกิดเหตุเองครับ เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่างๆ อย่าลืมที่จะโทรแจ้งตำรวจ และโทรแจ้งกู้ภัย ต่อให้คู่กรณีบาดเจ็บเล็กน้อยก็ต้องเรียกกู้ภัยนะครับ

อยากแจ้งความต้องรู้ ลงบันทึกประจําวัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง?


ชนแล้วไม่รับผิดชอบ

กรณีที่เข้าข่ายไม่รับผิดชอบ

1.ผู้ขับขี่ปฏิเสธความผิด

ผู้กระทำผิดปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุ หรือโยนความผิดให้กับคู่กรณี

2.ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย

ผู้กระทำผิดไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ หรือค่าเสียหายอื่น ๆ

3.ไม่ให้ความร่วมมือในแต่ละขั้นตอน

ผู้กระทำผิดไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบริษัทประกันภัยในการสืบสวนหาข้อเท็จจริง หรือไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย

ถ้าคู่กรณีชนแล้วบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการดังนี้

1.เก็บหลักฐาน

  • ถ่ายรูปอุบัติเหตุให้ครบทุกมุม โดยเฉพาะป้ายทะเบียนของคู่กรณี
  • ตรวจสอบกล้องหน้ารถว่าบันทึกเหตุการณ์ครบถ้วนหรือไม่
  • กล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง

2.โทรหาตำรวจและประกัน

โทรแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อเจรจากับคู่กรณี และโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นพยานและช่วยในการเจรจา

3.หาพยาน

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ในบริเวณนั้น และขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ด้วยนะครับ เผื่อในอนาคตเขาอาจเป็นพยานให้คุณได้

4.แจ้งความลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานในอนาคต

5.อย่ารีบร้อนยอมความ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่แน่ใจว่ามีอาการบาดเจ็บหรือไม่ เพราะว่าหากเรายอมความไปแล้วค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษาพยาบาลนั้นเราอาจจะต้องเป็นคนจ่ายเอง และไม่สามารถเรียกร้องจากคู่กรณีได้อีกเพราะว่าเรานั้นยอมความไปแล้วนั่นเอง


สรุป

เมื่อเกิดอุบัติเหตุทุกครั้งสิ่งที่ควรทำคือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่และเรียกรถพยาบาล การไม่ช่วยเหลือทั้งๆที่ช่วยได้หรือการที่หนีไปเลย โทษจะหนักและไม่สามารถยอมความได้ หากประกันอีกฝ่ายให้เซ็นเอกสารอะไรก็ตาม ขอให้อ่านอย่างละเอียด และการปรึกษาทนาย ให้ทนายความช่วยอ่านรายละเอียดเอกสารก่อนเซ็น ก็เป็นสิ่งที่ควรทำเช่นกันครับ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุต่างๆ สามารถปรึกษาทนายความผ่าน Legardy ได้ตลอด 24ชั่วโมง ครับ

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
sanook ข่าวสด มติชน spring
cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “
cta
ปรึกษาทนายได้ตลอด 24 ชม.
ติดต่อเราทาง LINE