ก่อนสร้างบ้านต้องรู้ ถมดินยังไงให้ปลอดภัยและถูกกฎหมาย
ถึงแม้ว่าโครงสร้างบริเวณเหนือพื้นดินจะแข็งแรงมากเพียงใด หากรากฐานของใต้ดินไม่มั่นคง ก็อาจทำให้บ้านทรุดตัวภายหลังได้ เป็นเหตุให้ต้องซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา เสียทั้งเงินและเวลา เพราะฉะนั้นก่อนสร้างบ้าน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องถมดินให้แน่นเสียก่อน แต่ใช่ว่าอยากถมก็ถมได้เลย อย่าลืมศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการถมที่ดิน หรือเลือกปรึกษาทนาย ออนไลน์ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมา
ทำไมต้องถมดินก่อนสร้างบ้าน
เหตุผลหลักที่ควรถมดินก่อนสร้างบ้าน คือ ช่วยวางรากฐานของพื้นดินให้มีความมั่นคง และป้องกันโพรงภายใต้พื้นดิน ทำให้โครงสร้างบ้านทั้งใต้ดินและบนดินมีความแข็งแรง ลดโอกาสพื้นดินทรุดในอนาคต
ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องถมดิน
เชื่อว่าทุกคนคงทราบถึงความสำคัญของการถมดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงปัจจัยที่ควรรู้ก่อนถมที่ดิน ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. ลักษณะพื้นที่ที่จะถมดิน
จำเป็นต้องรู้ลักษณะพื้นที่เสียก่อน เพื่อที่จะได้เลือกถมดินให้เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ดินบริเวณนั้นจะมีความอ่อนตัวสูง ควรถมดินแบบอัดแน่น หรือพื้นที่ที่มีดินค่อนข้างแข็ง ก็ไม่จำเป็นต้องถมแบบอัดแน่น จะช่วยประหยัดค่าถมได้มากเลยทีเดียว
2. ระดับความสูงของพื้นที่ที่จะถมดิน
โดยทั่วไประดับความสูงในการถมดิน จะสูงกว่าระดับถนนประมาณ 50-80 เซนติเมตร ทั้งนี้ต้องพิจารณาพื้นที่บริเวณโดยรอบด้วย หากอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ดินอ่อนตัวสูง แนะนำให้ถมดินสูงกว่าถนนประมาณ 1 เมตร เพื่อป้องกันดินทรุดตัวภายหลัง
ต้องการค้นหาด้านกฎหมายใช่ไหม ? สามารถค้นหาบทความ, คำปรึกษาจริง, มาตราที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ !
3. ระยะเวลาที่ต้องทิ้งพื้นที่ไว้หลังถมดิน
ส่วนใหญ่หลังจากถมดินใหม่เป็นที่เรียบร้อย ผ่านไปสักระยะหนึ่ง ดินจะเริ่มยุบตัวลง ซึ่งจะยุบตัวลงมากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับสภาพดินเดิมว่ามีความอ่อนตัวหรือมีความแข็งมากเพียงใด ไม่แนะนำให้สร้างบ้านหลังถมดินเสร็จทันที ควรทิ้งระยะประมาณ 6-12 เดือน
กฎหมายการถมที่ดินที่ควรรู้ก่อนสร้างบ้าน
แน่นอนว่า เจ้าของพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการถมดินโดยตรง แต่ก็ไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับพื้นที่บริเวณรอบข้างได้ จึงมีข้อกฎหมายสำหรับการถมที่ดิน 3 ข้อ ดังนี้ 1.) เจ้าของพื้นที่ที่ต้องการต้องขุดดินลึกจากระดับพื้นดินมากกว่า 3 เมตร จำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่พนักงานท้องถิ่นให้รับทราบ 2.) เจ้าของพื้นที่ที่ต้องการขุดดินลึกจากระดับพื้นดินน้อยกว่า 3 เมตร ในบริเวณใกล้แนวเขตพื้นที่คนอื่น ต้องทำการป้องกันการพังทลายของหน้าดิน 3.) เจ้าของพื้นที่ที่ต้องการขุดดินสูงกว่าพื้นที่บริเวณใกล้เคียง จำเป็นต้องสร้างแนวระบายน้ำ เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ผู้อื่น
'ดูคำปรึกษาจริงเรื่องที่ดินพร้อมคำตอบจากทนายความที่เชี่ยวชาญด้านที่ดิน คลิก'
ถมที่ดินให้ปลอดภัยต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง
นอกจากต้องทราบข้อกฎหมายเกี่ยวกับการถมดิน แล้ว บทความนี้จะมาพูดถึงปัจจัยที่ควรตรวจเช็กก่อนเริ่มถมดิน ประกอบไปด้วย 3 เช็กลิสต์ ดังนี้
ตรวจสอบประวัติการเกิดอุทกภัย
ก่อนถมดินให้ตรวจเช็กประวัติการเกิดอุทกภัย และระดับของท่อระบายน้ำ เพื่อทำการถมดินให้สูงกว่าระดับนั้น เป็นการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต
เช็กระดับที่ดินบริเวณข้างเคียงและถนนหน้าบ้าน
แนะนำให้ถมสูงกว่าระดับถนน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง แต่ไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร เพราะอาจทำให้พื้นที่ใกล้เคียงเกิดปัญหาน้ำท่วมขังได้
พิจารณาประเภทของดิน
นอกจากจะถมดินเพื่อสร้างบ้านแล้ว ยังสามารถถมเพื่อจุดประสงค์อื่นได้ อย่างเช่น ถมที่ดินเพื่อการเพาะปลูก เพราะฉะนั้นควรเลือกประเภทของดินให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยถ้าถมดินเพื่อสร้างบ้าน แนะนำเป็นดินถมทั่วไป หรือดินดาน สำหรับถมดินเพื่อเพาะปลูก แนะนำเป็นหน้าดิน เป็นต้น
สรุปบทความ
การถมดิน นับว่าเป็นหนึ่งในต้นทุนที่ค่อนข้างสูง แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานบริเวณใต้พื้นดิน และบนพื้นดินให้มีความมั่นคง แข็งแรง นอกจากจะช่วยปรับพื้นที่ให้เสมอกันแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการทรุดตัวของหน้าดินในอนาคตได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจถมที่ดิน อย่าลืมศึกษาประเภทของดิน ระดับความสูง และข้อกฎหมายต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาไม่ว่าจะในฐานะเจ้าของพื้นที่ หรือพื้นที่เพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง 'แต่หากเกิดปัญหาแล้วสามารถปรึกษาทนายความผ่าน Legardy ที่เชี่ยวชาญด้านที่ดิน คลิก'
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว