หมายเรียก–หมายจับ  ต่างกันอย่างไร สิทธิของผู้ถูกออกหมายหมายเรียกคืออะไร.png
เผยแพร่เมื่อ: 2025-10-15

หมายเรียก 

หมายเรียก–หมายจับ _ ต่างกันอย่างไร_ สิทธิของผู้ถูกออกหมาย.png

หมายเรียก คือ หนังสือที่ออกโดยพนักงานสอบสวน พนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจและศาล ใช้เพื่อเรียกบุคคลให้มาทำการสอบสวน หรือเรียกให้มาศาลเพื่อไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาคดีในชั้นศาล 

บุคคลที่อาจถูกออกหมายเรียก ได้แก่ จำเลย ผู้ต้องหา ผู้เสียหาย พยาน หรือบุคคลที่มีเอกสารสำคัญหรือวัตถุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในคดี ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 52 วรรคหนึ่ง

แต่ทั้งนี้มีข้อสังเกตเพิ่มเติม คือ พนักงานสอบสวน หรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ สามารถไปทำการสอบสวนด้วยตนเองก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องออกหมายเรียกก็ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 52 วรรคสอง

สาเหตุทำไมต้องมีการออกหมายเรียก

  1. มีหมายเรียกเพื่อให้บุคคลไปทำการสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวน
  2. มีหมายเรียกเพื่อให้ไปทำการไต่สวนมูลฟ้องในชั้นศาล ในกรณีที่ผู้เสียหายยื่นฟ้องคดีเอง
  3. มีหมายเรียกเพื่อให้ไปพิจารณาคดีในชั้นศาล

ถ้าไม่ไปตามหมายเรียกสามารถจะมีผลอย่างไร

ตามหลักแล้วควรไปตามหมายเรียก แต่ในกรณีที่ไม่สามารถไปตามหมายเรียกได้ เนื่องจากมีเหตุผลบางประการ เช่น เจ็บป่วย สามารถเลื่อนนัดได้ โดยอาจจะต้องทำเป็นหนังสือเพื่อยื่นต่อหน่วยงานที่ออกหมายเรียก 

(อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง) ได้รับหมายเรียก ควรอ่านบทความนี้ให้จบ!

แต่ถ้าจงใจไม่ไปตามหมายเรียก หรือ ขัดขืนหมายเรียกจะมีผลทางกฎหมาย ดังนี้ 

  1. กรณีที่เป็นพยานของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แล้วไม่ไปตามหมายเรียกจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 168 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
     
  2. กรณีที่เป็นพยานของศาลหรือเป็นบุคคลที่ศาลเรียก ให้ส่งมอบเอกสารสำคัญ หรือวัตถุต่าง ๆ แล้วไม่ดำเนินการตามหมายเรียกจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 170 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
     
  3. กรณีที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่ไปตามหมายเรียกอาจถูกศาลออกหมายจับได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 66 วรรคสอง

หมายจับคืออะไร

หมายเรียก–หมายจับ _ ต่างกันอย่างไร_ สิทธิของผู้ถูกออกหมาย (2).png

หมายจับ คือ หมายอาญาชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นหนังสือที่ออกโดยศาลเท่านั้น ให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานฝ่ายปกครอง ในการจับกุมบุคคลที่เป็นผู้ต้องหา หรือจำเลยที่เชื่อว่าได้กระทำความผิดตามกฎหมายอาญา

ทั้งนี้ การจับบุคคลนั้นตามหลักแล้วต้องจับโดยต้องมีหมายจับเท่านั้น จะจับบุคคลใดโดยไม่มีหมายจับไม่ได้ แต่ยังมีข้อยกเว้นตามกฎหมาย ป.วิ.อ. มาตรา 78 ที่ให้อำนาจในการจับโดยไม่มีหมายจับได้

สาเหตุทำไมต้องมีการออกหมายจับ

ก่อนที่จะออกหมายจับได้นั้น "ต้องมีหลักฐานตามสมควรที่เชื่อได้ว่าบุคคลนั้นกระทำความผิดตามกฎหมาย" เพื่อประกอบเป็นเหตุผลในการพิจารณาออกหมายจับประกอบกับต้องมีเหตุในการขอออกหมายจับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 66 มีดังนี้

  1. ความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี กรณีนี้เป็นคดีที่มีโทษหนักจึงสามารถออกหมายจับได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 66 (1)
  2. กรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลย จะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือจะไปก่อเหตุอีก แม้จะเป็นคดีที่มีอัตราโทษต่ำกว่า 3 ปี ก็สามารถออกหมายจับได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 66 (2)
  3. กรณีที่บุคคลไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่มาตามหมายเรียกหรือตามนัดหมาย โดยที่ไม่มีเหตุผลอันสมควร ถือเป็นข้อสันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี ถือเป็นเหตุในการออกหมายจับได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 66 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2583/2565 

การขอให้ออกหมายจับบุคคลใด ย่อมส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกออกหมายจับ พนักงานสอบสวนจึงมีหน้าที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอที่จะเชื่อได้ว่าโจทก์กระทำผิดจริง 

แต่การที่พนักงานสอบสวนไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนว่าโจทก์เป็นบุคคลเดียวกับคนร้ายหรือไม่ ก่อนที่จะขอให้ออกหมายจับ จนทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายนั้น ถือเป็นการละเมิดต่อโจทก์

สิทธิของผู้ถูกออกหมาย

หมายเรียก–หมายจับ _ ต่างกันอย่างไร_ สิทธิของผู้ถูกออกหมาย (3).png

สิทธิของผู้ได้รับหมายเรียก ตามกฎหมายไม่ได้มีการกำหนดสิทธิของผู้ได้รับหมายเรียกไว้โดยเฉพาะเหมือนกับหมายจับ เนื่องจากหมายจับเป็นหมายอาญาที่มีการจำกัดสิทธิของผู้ที่ถูกจับ 

กฎหมายจึงมุ่งคุ้มครองสิทธิของบุคคลให้ได้รับความเป็นธรรมเมื่อถูกดำเนินคดีอาญา ทุกคนที่ตกเป็นผู้ถูกจับ ต้องได้รับความคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานฝ่ายปกครองต้องแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบถึงสิทธิที่ควรได้รับ

สิทธิของผู้ถูกจับ

หมายเรียก–หมายจับ _ ต่างกันอย่างไร_ สิทธิของผู้ถูกออกหมาย (4).png

ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 83 กำหนดไว้ดังนี้

  1. เจ้าพนักงานที่เป็นผู้จับต้องแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าเขาต้องถูกจับ เพื่อให้ผู้ถูกจับรู้ตัว
  2. เจ้าพนักงานที่เป็นผู้จับต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่า ถูกจับกุมเนื่องจากข้อหาอะไร กระทำความผิดเกี่ยวกับอะไร และถ้ามีหมายจับต้องแสดงหมายจับต่อผู้ถูกจับด้วย
  3. เจ้าพนักงานที่เป็นผู้จับต้องแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้
  4. เจ้าพนักงานที่เป็นผู้จับต้องแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบว่า ถ้อยคำที่ผู้ถูกจับให้การมานั้น สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ เพื่อให้ผู้ถูกจับได้พิจารณาไต่ตรองอย่างรอบคอบก่อนจะให้การ เนื่องจากอาจจะเป็นผลร้ายต่อผู้ถูกจับเอง
  5. ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะพบและขอปรึกษาทนายความ หรือผู้ที่จะเป็นทนายความของตนเอง เพื่อให้ทนายความช่วยเหลือ และให้คำแนะนำในการต่อสู้คดี
  6. ผู้ถูกจับมีสิทธิจะแจ้งให้ญาติ หรือผู้ที่ตนเองไว้วางใจทราบถึงการจับกุมได้

ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 7/1 กำหนดไว้ดังนี้

  1. มีสิทธิในการแจ้ง หรือจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ญาติ หรือบุคคลที่ผู้ต้องหาไว้วางใจทราบว่า ผู้ต้องหาถูกจับกุม รวมทั้งแจ้งสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวไว้ด้วย
  2. มีสิทธิในการพบหรือปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว
  3. มีสิทธิให้ทนายความของตน หรือญาติ หรือผู้ไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำในชั้นสอบสวนร่วมด้วยก็ได้
  4. มีสิทธิได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติของตนเองได้ตามสมควร
  5. มีสิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วหากเจ็บป่วย

ตารางเปรียบเทียบหมายเรียกและหมายจับแตกต่างกันอย่างไร

หัวข้อ 

หมายเรียก 

หมายจับ

ประเภทหมาย ไม่ใช่หมายอาญา เป็นหมายอาญา
สาเหตุของการออกหมาย

เป็นการเรียกให้บุคคลไปทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง 

ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 52 วรรคหนึ่ง ดังนี้

  1. มีหมายเรียกเพื่อให้บุคคลไปทำการสอบสวน
  2. มีหมายเรียกเพื่อให้ไปทำการไต่สวนมูลฟ้องในชั้นศาล
  3. มีหมายเรียกเพื่อให้ไปพิจารณาคดีในชั้นศาล

เป็นการจับกุมบุคคลเนื่องจากได้กระทำความผิด

โดยมีเหตุแห่งการออกหมายจับ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 66 ดังนี้

  1. เมื่อมีบุคคลที่เชื่อได้ว่าเขากระทำความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี ตาม
    ป.วิ.อ. มาตรา 66 (1)
     
  2. กรณีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลย จะหลบหนี หรือ จะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือจะไปก่อเหตุอีก มาตรา 66 (2)
     
  3. กรณีที่บุคคลไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่มาตามหมายเรียกหรือนัดหมาย โดยที่ไม่มีเหตุผลอันสมควร สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะ
    หลบหนี ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 66 วรรคสอง
ผู้มีอำนาจในการออกหมายพนักงานสอบสวน หรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือ ศาล
สามารถออกหมายเรียกได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 52 วรรคหนึ่ง

ศาลเท่านั้น 

ที่สามารถออกหมายจับได้

ผู้ถูกออกหมายคือใครจำเลย, ผู้ต้องหา, ผู้ต้องสงสัย, ผู้เสียหาย, พยานที่รู้เห็นในคดี หรือ บุคคลที่มีเอกสาร หรือทรัพย์สิน หรือวัตถุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์จำเลย, ผู้ต้องหา
สิทธิของผู้ถูกหมาย 

ไม่ได้มีบทกฎหมาย

กำหนดสิทธิเอาไว้
โดยเฉพาะ

สิทธิของผู้ถูกจับมีกำหนดไว้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 83 และ มาตรา 7/1

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
sanook ข่าวสด มติชน spring
cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “