เผยแพร่เมื่อ: 2024-01-02

วิธีการจัดการทรัพย์สินของบุตรผู้เยาว์อย่างถูกกฎหมาย

 

อยากแรกเลยเรามารู้จักคำว่า " ผู้เยาว์ " ก่อน

ผู้เยาว์คือใคร ?

 

ผู้เยาว์ คือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งบุคคลที่บรรลุนิติภาวะนั้น หมายถึง บุคคลที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ (ประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ มาตรา 19) หรือแม้อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ แต่ได้สมรสโดยถูกต้องตามกฎหมาย ก็ถือว่าบุคคลนั้นบรรลุนิติภาวะแล้วเช่นกัน (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 20)

 

ผู้เยาว์สามารถทำนิติกรรมได้หรือไม่ ?

 

โดยหลักแล้วการที่ผู้เยาว์ทำนิติกรรมด้วยตนเอง โดยปราศจากความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือบิดามารดา ถือว่าเป็นการทำนิติกรรมโดยบกพร่องในเรื่องความสามารถ ส่งผลให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 21 และมาตรา 153) ซึ่งนิติกรรมที่เป็นโมฆียะนั้น หมายถึง นิติกรรมที่มีผลสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย แต่อาจถูกบอกล้างได้ และเมื่อมีการบอกล้างแล้วนิติกรรมนั้นย่อมตกเป็นโมฆะมาแต่แรก เสมือนไม่ได้ทำนิติกรรมกันเลย (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176)

 

แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีนิติกรรมบางประเภทที่ผู้เยาว์สามารถทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือบิดามารดาก่อน ดังนี้

 

- นิติกรรมที่สมแก่ฐานานุรูปของตน และเป็นการจำเป็นในการดำรงชีพตามสมควร เช่น การซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย การซื้ออาหาร ซื้อขนม ซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น เป็นต้น (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 24)

- พินัยกรรม (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 25) แต่หากผู้เยาว์ที่ทำพินัยกรรมนั้น มีอายุยังไม่ครบ 15 ปีบริบูรณ์ พินัยกรรมนั้นย่อมตกเป็นโมฆะทันที (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1703)

 

 

หากบุตรผู้เยาว์ทำนิติกรรมเอง แล้วผลเป็นโมฆียะ บิดามารดาหรือผู้แทนโดยชอบธรรมจะทำนิติกรรมนั้นแทนบุตรผู้เยาว์ได้หรือไม่ ?

 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574 ได้กำหนดไว้ว่า นิติกรรมอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ ดังต่อไปนี้ผู้ใช้อำนาจปกครองจะกระทำไม่ได้ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต

(1) ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก ให้เช่าซื้อ จำนอง ปลดจำนอง หรือโอนสิทธิจำนอง ซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ที่อาจจำนองได้

(2) กระทำให้สิ้นสุดลงทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งทรัพยสิทธิของผู้เยาว์อันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์

(3) ก่อตั้งภาระจำยอม สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพยสิทธิอื่นใดในอสังหาริมทรัพย์

(4) จำหน่ายไปทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งสิทธิเรียกร้องที่จะให้ได้มาซึ่งทรัพยสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ หรือสังหาริมทรัพย์ที่อาจจำนองได้ หรือสิทธิเรียกร้องที่จะให้ทรัพย์สินเช่นว่านั้นของผู้เยาว์ปลอดจากทรัพยสิทธิที่มีอยู่เหนือทรัพย์สินนั้น

(5) ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี

(6) ก่อข้อผูกพันใด ๆ ที่มุ่งให้เกิดผลตาม (1) (2) หรือ (3)

(7) ให้กู้ยืมเงิน

(8) ให้โดยเสน่หา เว้นแต่จะเอาเงินได้ของผู้เยาว์ให้ผู้แทนเพื่อการกุศลสาธารณะ เพื่อการสังคม หรือตามหน้าที่ธรรมจรรยา ทั้งนี้ พอสมควรแก่ฐานานุรูปของผู้เยาว์

(9) ให้โดยเสน่หาที่มีเงื่อนไขหรือค่าภาระติดพัน หรือไม่รับการให้โดยเสน่หา

(10) ประกันโดยประการใด ๆ อันอาจมีผลให้ผู้เยาว์ต้องถูกบังคับชำระหนี้หรือทำนิติกรรมอื่นที่มีผลให้ผู้เยาว์ต้องรับเป็นผู้รับชำระหนี้ของบุคคลอื่นหรือแทนบุคคลอื่น

(11) นำทรัพย์สินไปแสวงหาผลประโยชน์นอกจากในกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1598/4 (1) (2) หรือ (3)

(12) ประนีนอมยอมความ

(13) มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย

 

นิติกรรมที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนนั้น หากผู้ใช้อำนาจปกครองกระทำโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574 จะไม่ได้บัญญัติผลของการฝ่าฝืนไว้ แต่ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา ได้วินิจฉัยไว้ว่าเป็นนิติกรรมที่ทำโดยปราศจากอำนาจ ไม่มีผลผูกพันตัวผู้เยาว์ และถือเป็นสิทธิของผู้เยาว์ที่จะยกขึ้นอ้างว่านิติกรรมนั้นไม่มีผลผูกพันตนได้ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8308/2561 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2564)

 

การให้บุตรผู้เยาว์ทำนิติกรรมด้วยตนเอง

 

หากการทำนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574 มีความยุ่งยากต้องได้รับอนุญาตจากศาล ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง จะหลีกเลี่ยงการขออนุญาตจากศาล โดยให้บุตรผู้เยาว์ทำนิติกรรมด้วยตนเอง และตนให้ความยินยอมเพื่อให้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายได้หรือไม่ ?

 

กรณีเช่นนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4984/2537 ได้วินิจฉัยไว้ว่า การให้ผู้เยาว์ทำนิติกรรมพร้อมผู้แทนโดยชอบธรรมมีผลว่าผู้แทนโดยชอบธรรมอนุญาตให้ทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาลก่อนก็เท่ากับเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ต้องมาขออนุญาตจากศาล ซึ่งเป็นการผิดไปจากเจตนารมณ์ของกฎหมาย ฉะนั้นนิติกรรมจึงไม่มีผลผูกพันผู้เยาว์

 

ดังนั้น การจะจัดการทรัพย์สินหรือทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุตรผู้เยาว์ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574) บิดามารดา ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้ใช้อำนาจปกครอง ต้องขออนุญาตจากศาลก่อน จึงจะจัดการได้ มิฉะนั้น นิติกรรมนั้นจะไม่มีผลผูกพันทรัพย์สินของบุตรผู้เยาว์เลย และอาจถูกเพิกถอนได้

cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “
cta
ปรึกษาทนายได้ตลอด 24 ชม.