เนื่องด้วยอาจมีเหตุการณ์คนในครอบครัวของท่านหายตัวไปจากบ้านหรือภูมิลำเนาที่อยู่โดยไม่ได้บอกกล่าวหรือแจ้งเหตุให้ครอบครัวและญาติสนิททราบและต่อมา

ไม่สามารถติดต่อหรือติดตามหาตัวไปพบ กรณีเช่นว่านี้ จะถือว่าบุคคลเสียชีวิตแล้วหรือไม่ ?

หลักกฎหมายของการหายตัวไป

ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 61 วรรคแรก ถ้าบุคคลได้ไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่และไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตลอดระยะเวลาห้าปีเมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการร้องขอ ศาลจะสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญก็ได้ ”

วรรคสอง ระยะเวลาตามวรรคหนึ่งให้ลดลงเหลือสองปี เมื่อมีเหตุดังนี้

(1) นับแต่วันทีได้มีการรบหรือสงคราม ถ้าบุคคลนั้นอยู่ในการรบหรือสงคราม และหายไปในการรบหรือสงครามดังกล่าว

(2) นับแต่วันทียานพาหนะที่บุคคลนั้นเดินทาง อับปาง ถูกทำลาย หรือ สูญหายไป

(3) นับแต่วันที่เหตุอันตรายแก่ชีวิตนอกจากที่ระบุไว้ใน(1) หรือ (2) ได้ผ่านพ้นไป ถ้าบุคคลนั้นอยู่ในอันตราเช่นว่านั้น

ซึ่งตามกฎหมายดังกล่าวได้ระบุเหตุที่จะทำให้เป็นบุคคลสาบสูญจะต้องเข้าเหตุตามมาตรา 61 ดังกล่าวด้วยและจะต้องพ้นระยะเวลาที่ระบุไว้ตามแต่วรรคดด้วย 

'อ่านบทความเรื่องคนหาย เมื่อเกิดเหตุคนหาย แต่ไม่ครบ 24 ชม. จะแจ้งความคนหายได้ไหม'

ยกตัวอย่างเช่น

วรรคแรกจะต้องพ้นระยะ 5 ปี นับแต่ไปจากภูมิลำเนาและไม่สามารถติดต่อและไม่สามารถ หรือ พ้นระยะเวลา 2 ปี ตามเหตุที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อพ้นระยะเวลาแล้วจะมีผลเป็นอย่างไรนั้น ทั้งนี้หากบุคคลดังกล่าวหายสาบสูญไปตามปกติจะต้องมีลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ข้อมูลและปากคำพร้อมข้อมูลในการติดต่อบุคคลดังกล่าว เช่น เบอร์โทรศัพท์ บัญชีธนาคาร เฟสบุ๊ค หรือ อื่นใด เพื่อดำเนินการสืบพยานหาบุคคลดังอยู่ที่ใด โดยไม่ต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมง 

เมื่อมีแจ้งความดังกล่าวก็ให้คัดเอกสารดังกล่าวเก็บเพื่อเป็นพยานหลักในยื่นคำร้องให้เป็นคนสาบสูญไปเมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายเป็นการให้สิทธิแก่ผู้เสียหายส่วนได้เสียยืนคำร้องขอศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวเป็นคนสาบสูญโดยผู้มีส่วนได้เสียคือใครนั้น ได้ปกติได้แก่ บุตร และ คู่สมรส บิดา มารดา ก็เป็นผู้สิทธิยื่นคำร้องเช่นว่านี้น แล้วจะต้องยื่นที่ไหน เบื้องให้ดูตามทะเบียนบ้านของบุคคลผู้สาบสูญเป็นหลัก และภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลใดให้ยื่นต่อศาลนั้น โดยสามารถสอบเขตอำนาจได้ที่ (https://pubdata.coj.go.th/jurisdiction) เมื่อตรวจสอบท่านสามารถยื่นคำร้องได้เอง หรือ ว่าจ้างทนายความเป็นผู้ยื่นให้ แต่หากท่านไม่มีเงินว่าจ้างทนายความ เช่นนี้ ก็สามารถขอความช่วยเหลือจ่ากพนักงานอัยการประจำเขตศาลนั้น ได้แก่ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของศาลนั้นๆ หลังได้ยื่นคำร้องดังกล่าวศาลก็จะทำการไต่สวนถึงเหตุดังกล่าวว่าเข้าเหตุที่ระบุในตามกฎหมายหรือไม่ หากเข้าเหตุตามข้อกฎหมายแล้วศาลก็จะมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวเป็น

คนสาบสูญ ซึ่ง สาบสูญ มีสถานะตามกฎหมายอย่างไร 

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชน์ มาตรา 62 ว่าบุคคลซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ให้ถือว่าถึงแก่ความตายเมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังที่ระบุไว้ในมาตรา 61 ก็แสดงว่า บุคคลสาบสูญ หมายถึง บุคคลถึงแก่ความตายแล้วนั้นนับแต่พ้นระยะเวลาตามมาตรา 61 กำหนดไว้ เช่นนี้ ทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลสาบสูญจะต้องตกเป็นมรดกของทายาทโดยชอบธรรมตามกฎหมายต่อไป

กรณีคนสาบสูญเป็นหนี้ไว้ก่อนที่จะหายตัวไป

ในบางครั้งอาจจะมีการฟ้องร้องบุคคลสาบสูญซึ่งเป็นหนี้ที่ก่อไว้ก่อนจะหายตัวไปจากบ้านหรือภูมิลำเนาโดยไม่สามารถติดต่อได้ โดยไม่มีการแจ้งย้ายที่อยู่ และบุคคลดังกล่าวมีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์ เช่น ทะเบียนรถยนต์ หรือ โฉนดที่ดิน ทำให้ ทายาท หรือ คู่สมรสไม่สามารถ เจรจากับเจ้าหนี้ได้ และไม่สามารถต่อสู้คดีแทนได้ เช่น การยื่นคำร้องให้เป็นคนสาบสูญ และ ยื่นคำร้องเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน หรือ ผู้จัดการมรดก ยื่นดำเนินการ เจรจาต่อ หรือ ต่อสู้กับเจ้าหนี้แทนบุคคลดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ต้องเข้าเหตุตามกฎหมายด้วย

'อ่านบทความ ทำไมต้องจ้างทนายในการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก คลิกเลย!'

เมื่อเช่นทายาทเหล่านั้น จะต้องคัดเอกสาร

คำสั่งศาลและหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดตามคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญของศาลเพื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบการยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกเพื่อจัดการทรัพย์อันเป็นมรดกของผู้สาบสูญต่อไป แต่ทั้งนี้ หากหากบุคคลผู้สาบสูญยังมีชีวิตและทราบเหตุว่ามีคำสั่งดังกล่าว ก็สามารถยื่นเพิกคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญได้เช่นกัน และ ทรัพย์สินก็ทายาทได้โอนเป็นของคนเองเช่นนี้ จะต้องคืนแก่บุคคลผู้สาบสูญซึ่งศาลได้คำสั่งเพิกถอนในฐานะลาภมิควรได้

ฉะนั้นแล้วหากบทความนี้เป็นประโยชน์และมีข้อสงสัยใดสามารถสอบได้หรือคอมเม้นได้เลยนะครับ

ทนายความ อดุลย์พร มะสันต์