รู้หรือไม่? แฮ็กไอดีเกมส์ของคนอื่นมีความผิดถึงขั้นติดคุก...!!!
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยเล่นเกมส์ออนไลน์กันมาบ้างใช่ไหมครับ และขึ้นชื่อว่าเกมส์ออนไลน์เราคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ไอดี” และ “พาสเวิร์ด” ที่เหล่าเกมส์เมอร์อย่างพวกเราจะต้องมีเพื่อใช้ในการล๊อกอินเข้าไปเล่นในเกมส์นั้น และหลายคนคงเคยเจอกับสถานะการณ์ที่เรียกว่า “ถูกแฮ็กไอดี” ด้วยวิธีอะไรก็แล้วไม่ว่าจะเป็นแอบดู หรือใช้โปรแกรมต่างๆ แล้วเคยสงสัยกันไหมครับว่าการแฮ็กเข้าไปในไอดีเกมส์ของคนอื่นเนี่ย มันมีความผิดอาญาหรือไม่? วันนี้ผมมีคำตอบมาให้เพื่อนครับ
การแฮ็กไอดีเกมส์มีความผิดทางกฎหมายยังไง ?
1.ความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา
ก่อนอื่นผมขอท้าวความไปถึงบทนิยามของ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1(14) ที่ให้นิยามของคำว่า "บัตรอิเล็กทรอนิกส์" เอาไว้ดังนี้ครับ
“บัตรอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า
ก) เอกสารหรือวัตถุอื่นใดไม่ว่าจะมีรูปลักษณะใดที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ ซึ่งจะระบุชื่อหรือไม่ก็ตาม โดยบันทึกข้อมูลหรือรหัสไว้ด้วยการประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน ซึ่งรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสงหรือวิธีการทางแม่เหล็กให้ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร ตัวเลข รหัส หมายเลขบัตร หรือสัญลักษณ์อื่นใด ทั้งที่สามารถมองเห็นและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
(ข) ข้อมูล รหัส หมายเลขบัญชี หมายเลขชุดทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องมือทางตัวเลขใด ๆ ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ โดยมิได้มีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดให้ แต่มีวิธีการใช้ในทำนองเดียวกับ (ก) หรือ
(ค) สิ่งอื่นใดที่ใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
ดังนั้นจากบทนิยามข้างต้นหากเราพิจารณาจาก (ก) และ (ข) เราย่อมได้ความว่า ไอดีเกมส์ที่ค่ายเกมส์ต่างๆ ออกให้เราใช้ล็อกอินเข้าไปเล่นเกมส์ออนไลน์ต่างๆ นั้นเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามนิยามของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1(14) อย่างหนึ่ง เทียบเคียงจากคำพิพากษาฎีกาดังต่อไปนี้ครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 1184-1187/2565
“...โจทก์ร่วมเปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารให้รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านแก่โจทก์ร่วม ซึ่งโจทก์ร่วมใช้ข้อมูลบัญชีเงินฝาก รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านบนโปรแกรมทางอินเทอร์เน็ตในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ ชำระหนี้อื่นแทนการชำระเงินสด ใช้โอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ร่วมไปยังบัญชีเงินฝากของบุคคลอื่น ใช้ในการเบิกถอนเงินสด หรือใช้ในธุรกรรมอย่างอื่น ถือได้ว่าเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามความหมายของมาตรา 1 (14) (ข)...”
คำพิพากษาฎีกาที่ 350/2564
“...ป.อ. มาตรา 1 (14) เป็นเพียงบทนิยามว่าสิ่งใดเป็น “บัตรอิเล็กทรอนิกส์” ตาม ป.อ. แต่มิได้ระบุเกี่ยวกับวิธีใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ไว้โดยเฉพาะ การวินิจฉัยว่าการกระทำใดเป็นการใช้ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จึงต้องพิจารณาว่าการกระทำนั้นเป็นวิธีใช้โดยทั่วไปของบัตรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดนั้น หรือไม่ โดยไม่จำกัดว่าหากเป็น “บัตรอิเล็กทรอนิกส์” ตามนิยามแห่ง ป.อ. มาตรา 1 (14) (ก) แล้ว การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์จะต้องเป็นการใช้เอกสารหรือวัตถุอื่นใดที่ผู้ออกได้ออกให้โดยตรงเท่านั้น ดังจะเห็นได้จาก “บัตรอิเล็กทรอนิกส์” ตามนิยามแห่ง ป.อ. มาตรา 1 (14) (ข) ที่ระบุว่า “…มีวิธีการใช้ ทำนองเดียวกับ (ก)” ทั้งที่ไม่มีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดไว้ให้ แสดงว่าบัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามนิยาม แห่ง ป.อ. มาตรา 1 (14) (ก) ย่อมสามารถใช้เฉพาะข้อมูลหรือรหัสได้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้การวินิจฉัย ว่าจำเลยใช้บัตรเครดิตของโจทก์โดยมิชอบหรือไม่ จึงต้องพิจารณาว่าการกระทำของจำเลยเป็นวิธีใช้ บัตรเครดิตโดยทั่วไปหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือ หนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดผ่านทางเว็บไซต์โดยผู้รับชำระไม่ต้องเห็นบัตรเครดิต เป็นวิธีใช้บัตรเครดิต โดยทั่วไปวิธีหนึ่ง...”
เมื่อได้ความว่าไอดีเกมส์ถือเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่งแล้ว การใช้(ล็อกอิน) เข้าไปในไอดีเกมส์ของผู้อื่นโดยไม่ชอบ หรือมีไอดีเกมส์ของผู้อื่นเพื่อใช้โดยไม่ชอบ หากเป็นการกระทำในประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน เช่น โอนไอเทมให้บุคคลที่ 3 เอาตัวละครไปหลอกคนอื่นฯ จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ดังต่อไปนี้ครับ
“มาตรา 269/5 ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
“มาตรา 269/6 ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบตามมาตรา 269/5 ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
2.ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
โดยใน พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 3 ได้ให้ความหมายของคำว่าข้อมูลคอมพิวเตอร์ไว้ว่า “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด บรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ด้วย” จากบทนิยามนี้จะเห็นว่า ข้อมูลตัวระคร เลเวล ไอเทมต่าง ฯ ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น ดังนั้นการแฮ็กไอดีเกมส์ออนไลน์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติจึงเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ดังต่อไปนี้ครับ
“มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน การเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เทียบเคียงจากคำพิพากษาฎีกาดังต่อไปนี้ครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 3473/2563
“...การที่จำเลยเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลผู้เสียหายที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับจำเลย โดยจำเลยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์จากภายนอกผ่านระบบอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของโรงพยาบาลผู้เสียหาย ...”
สรุป
นี่ก็เป็นการนำหลักกฎหมายและคำพิพากษาฎีกาที่ใกล้เคียงมาปรับกับข้อเท็จจริงเรื่องการแฮ็กไอดีเกมส์เบื้องต้น ส่วนคำพิพากษาฎีกาที่ข้อเท็จจริงตรงกันไม่มีผิดเพี้ยนนั้นศาลฎีกายังไม่มีการตัดสินจากข้อเท็จจริงแบบนั้นครับเพราะยังไม่เคยมีการนำข้อเท็จจริงแบบนั้นขึ้นสู่ศาล แต่เชื่อว่าในอนาคตด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนามากขึ้น วิถีชีวิตของมนุษย์ต้องเกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์มากขึ้น คงต้องมีการนำข้อเท็นจริงแบบนี้ขึ้นสู่ศาลอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยคลายความสงสัยของเกมส์เมอร์หลายๆ คนเกี่ยวกับการแฮ็กไอดีเกมส์ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์อย่าลืมให้กำลังใจพวกเราได้ผ่าน การรีวิว กดไลค์ กดแชร์ ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อที่เราจะได้มีกำลังใจการรวบรวมกฏหมายและเขียนออกมาเป็นบทความดีๆ(มั้ง) มาให้เพื่อนๆ อ่านต่อไปครับ แล้วเจอกันใหม่ วันไปก่อนครับ บายยย...
