ผู้กระทำร่วม-ตัวการ-ผู้ใช้-ผู้สนับสนุน_ ขอบเขตความผิด.png
เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-13

ตัวการ-ผู้ใช้-ผู้สนับสนุน: ขอบเขตความรับผิด

ผู้กระทำร่วม-ตัวการ-ผู้ใช้-ผู้สนับสนุน_ ขอบเขตความผิด.png

            การกระทำผิดกฎหมายอย่างเช่น การทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น หรือการลักทรัพย์ บางครั้งก็อาจเกิดจากการกระทำของคนเพียงคนเดียว แต่บางกรณีก็อาจจะมีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้องร่วมกันทำความผิดก็ได้ หรือบางคนอาจเป็นผู้สั่งให้คนอื่นไปทำแทนตนเอง หรือบางคนอาจช่วยเหลือให้คนอื่นการกระทำความผิด

            เพราะฉะนั้น เวลามีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด กฎหมายก็เลยแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนออกให้ชัดเจนว่าใครเป็น “ตัวการ” คือคนลงมือทำเอง ใครเป็น “ผู้ใช้” คือคนที่สั่งให้คนอื่นทำ แล้วก็ใครเป็น “ผู้สนับสนุน” คือคนที่ช่วยเหลือให้ความผิดเกิดขึ้นง่ายขึ้น เพื่อจะได้กำหนดโทษให้เหมาะกับแต่ละคนได้อย่างเป็นธรรมและเหมาะสมกับพฤติการณ์ของแต่ละฝ่าย

⭐️ ปรึกษาทนายเบื้องต้นฟรี ง่ายๆผ่านทาง Free Q&A ของ Legardy โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตน

ตัวการ

ผู้กระทำร่วม-ตัวการ-ผู้ใช้-ผู้สนับสนุน_ ขอบเขตความผิด (2).png

คำว่า “ตัวการ” ในภาษาที่เข้าใจทั่วไป หมายถึง ผู้ก่อเหตุ ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น

            แต่นอกจากนี้ตัวการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 หมายถึง ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นก็เป็นตัวการ 

ตัวการ ตามมาตรา 83 มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

1. ต้องมีการกระทำความผิด 

หมายความว่า ต้องมีการกระทำความผิด และการกระทำที่ทำลงไปต้องเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิดและมีโทษตามกฎหมายด้วย แล้วก็ต้องเป็นการทำโดยมีเจตนาเท่านั้น คนที่ร่วมทำถึงจะถือว่าเป็นตัวการได้ เพราะถ้าเป็นการกระทำที่เกิดจากความประมาท ไม่ได้ตั้งใจจะทำผิดจริง ๆ แบบนั้นจะไม่ถือว่าคนที่ร่วมทำเป็นตัวการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

2. ต้องมีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมมือกันในการกระทำความผิด

3. ต้องมีการกระทำร่วมกัน 

หมายความว่า การที่หลายคนร่วมมือกันทำความผิด ไม่จำเป็นต้องลงมือทำทุกขั้นตอนพร้อมกันก็ได้ บางคนอาจทำบางส่วน หรือช่วยเหลือกันในบางอย่าง จนสุดท้ายทำให้ผลของความผิดเกิดขึ้นร่วมกัน ซึ่งลักษณะของการร่วมกันทำผิดแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น

  • ร่วมกันกระทำทั้งหมดหรือกระทำบางส่วน เช่น ทั้งสองคนร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย หรือคนหนึ่งจับตัวผู้เสียหายไว้ อีกคนหนึ่งเป็นผู้ลงมือทำร้ายผู้เสียหาย 
  • มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น คนหนึ่งงัดประตูและเฝ้าต้นทาง อีกคนหนึ่งเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของผู้เสียหาย แล้วหลบหนีไปด้วยกัน
  • อยู่ร่วมกันในที่เกิดเหตุหรือใกล้เคียงกันพร้อมจะช่วยเหลือกันได้ทันที 
  • อยู่ร่วมกันในที่เกิดเหตุและก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด 

ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 158/2553 จำเลยที่ 2 ส่งมีดให้จำเลยที่ 1 (ผู้ลงมือ) พร้อมกับพูดให้จำเลยที่ 1 แทงผู้ตาย จำเลยที่ 1 เมื่อรับมีดมาก็แทงผู้ตายบริเวณหน้าอก 1 ครั้ง แล้วจำเลยทั้งสองก็หลบหนีไปด้วยกัน กรณีนี้ถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 ไม่ใช่เป็นผู้สนับสนุนเท่านั้น

🔎หาคำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ผ่านทางระบบ ค้นหาฎีกา ของ Legardy

4. ต้องมีเจตนากระทำร่วมกันในขณะกระทำความผิด 

การจะถือว่ามีเจตนาร่วมกันทำความผิด ต้องดูทั้งจากการกระทำและเจตนาของแต่ละคน คือแต่ละคนต้องรู้ว่าคนอื่นกำลังทำอะไร แล้วก็ยอมรับหรือเห็นด้วยกับการกระทำนั้น เหมือนกับว่าตัวเองก็เป็นคนลงมือด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ทุกคนที่ร่วมกันทำต้องมีเจตนาหรือความตั้งใจร่วมกัน ที่อยากให้ความผิดนั้นเกิดขึ้นหรือสำเร็จจริง ๆ

ขอบเขตความรับผิดของตัวการ  

            เมื่อบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันลงมือกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกันทำ วางแผนร่วมกัน หรือกระทำในส่วนใดส่วนหนึ่งของการกระทำ ไม่ว่าคนหนึ่งจะเป็นคนวางแผน อีกคนหนึ่งเป็นคนทำ หรืออีกคนหนึ่งช่วยทำอีกนิดหน่อย ถ้าร่วมมือกันทำบุคคลที่ร่วมกันทำความผิดนั้นเป็นตัวการ กฎหมายกำหนดให้ตัวการต้องรับโทษเท่ากันทุกคนตามกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 

            ถ้ามีคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปร่วมกันทำความผิด ไม่ว่าจะช่วยกันลงมือ วางแผนด้วยกัน หรือทำแค่บางส่วนของการกระทำนั้นก็ตาม ถ้าทุกคนร่วมมือกันทำ ก็ถือว่าทุกคนเป็นตัวการทั้งหมด ตัวการจะต้องรับโทษเท่ากันทุกคน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83


ผู้ใช้

ผู้กระทำร่วม-ตัวการ-ผู้ใช้-ผู้สนับสนุน_ ขอบเขตความผิด (3).png

"ผู้ใช้" หมายถึง บุคคลที่ก่อหรือใช้ให้บุคคลอื่นกระทำความผิดกฎหมาย 

หลักสำคัญของผู้ใช้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 มีองค์ประกอบดังนี้

1. ต้องมีการกระทำอันเป็นการก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด เช่น

  • ใช้
  • บังคับ ขู่เข็ญ 
  • จ้าง วาน 
  • ยุยงส่งเสริม
  • หรือด้วยวิธีอื่นใด

2. ต้องมีเจตนาก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด 

หมายความว่า ความจงใจหรือความรู้สำนึกของผู้กระทำรู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด โดยมุ่งหมายให้ผู้อื่นกระทำความผิดนั้นโดยตรง หรือเล็งเห็นว่าผู้อื่นอาจจะกระทำความผิดนั้น ๆ และต้องการให้ผลของการกระทำนั้นเกิดขึ้น

3. ผลของการกระทำ 

หลังจากที่ผู้ใช้ได้ก่อให้บุคคลอื่นกระทำความผิดแล้วนั้น ผู้ถูกใช้อาจจะกระทำความผิดแล้วตามที่ผู้ใช้บอก หรือผู้ถูกใช้อาจจะไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งผู้ใช้มีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมายแตกต่างกัน ดังนี้

ขอบเขตของความรับผิดของผู้ใช้

1. กรณีที่ผู้ถูกใช้ยังไม่ได้กระทำความผิด

            ผู้ใช้ได้ใช้ให้บุคคลอื่นกระทำความผิดแล้ว แต่ยังผู้ถูกใช้ยังไม่ได้กระทำความผิด โดยเกิดจาก ผู้ถูกใช้ไม่ยอมกระทำ หรือยังไม่ได้กระทำ หรือเหตุอื่นใด ผู้ใช้ต้องระวางโทษเพียง 1 ใน 3 ของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 วรรคสอง

2. กรณีที่ผู้ถูกใช้กระทำความผิดแล้ว

            ถ้ามีคนสั่งหรือใช้ให้คนอื่นไปทำความผิด แล้วผู้ถูกใช้ก็ไปทำความผิดจริง ๆ ถึงแม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ลงมือทำเอง กฎหมายก็กำหนดว่าผู้ใช้ก็ต้องรับโทษเหมือนตนเองเป็นตัวการ คือถ้าคนที่ลงมือทำมีความผิดและมีโทษยังไง คนที่เป็นผู้ใช้ก็ต้องมีความผิดและรับโทษแบบเดียวกันด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10821/2555

            ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 บัญญัติว่า ถ้าผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดนั้น ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ หมายความว่า เมื่อมีผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดและผู้ถูกใช้ได้ลงมือกระทำความผิดแล้ว ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนหนึ่งว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดนั้น 

หากจำเลยเป็นผู้ที่ร่วมกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ และเป็นผู้ใช้เอกสารสิทธิปลอมนั้น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง บัญญัติให้ลงโทษฐานใช้เอกสารสิทธิปลอมแต่เพียงกระทงเดียว เมื่อจำเลยเป็นผู้ใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ จึงต้องลงโทษจำเลยเสมือนเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดคือ ลงโทษฐานใช้เอกสารสิทธิปลอมแต่เพียงกระทงเดียวเช่นกัน

3. กรณีที่ใช้บุคคลที่อยู่ในภาวะเสียเปรียบกระทำความผิด

            ถ้าผู้ใช้ได้ใช้บุคคลที่อยู่ในภาวะเสียเปรียบให้กระทำความผิด ผู้ใช้ต้องรับโทษหนักขึ้นโดยให้เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้ใช้กึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 วรรคสาม บุคคลที่อยู่ในภาวะเสียเปรียบ มีดังนี้

  • บุคคลที่อายุไม่เกิน 18 ปี 
  • ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ 
  • ลูกจ้างหรือผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้ใช้
  • ผู้ที่มีฐานะยากจน
  • ผู้ต้องพึ่งพาผู้ใช้เพราะเหตุป่วยเจ็บหรือไม่ว่าทางใด

📢 หากคุณกำลังมองหาคำแนะนำ ถูกบังคับหรือใช้ให้กระทำความผิด หรือต้องการปรึกษาปัญหากฎหมายอื่นๆ ติดต่อทนาย กว่า 700 คนทั่วประเทศผ่านเว็บไซต์ได้เลย 


ผู้สนับสนุน 

ผู้กระทำร่วม-ตัวการ-ผู้ใช้-ผู้สนับสนุน_ ขอบเขตความผิด (4).png

“ผู้สนับสนุน” หมายถึง บุคคลที่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือกระทำความผิดด้วยตนเอง และไม่มีเจตนาลงมือทำผิดด้วยตนเอง แต่เจตนาช่วยเหลือให้ความสะดวกในการทำผิดของตัวการ ให้ตัวการสามารถลงมือสามารถกระทำความผิดได้โดยง่าย 

เป็นไปตาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 เช่น ให้ยืมปืนไปยิงคนอื่น หรือขับรถไปรับไปส่งผู้กระทำผิด หรือเป็นผู้บอกเส้นทางไปลักทรัพย์ การกระทำของผู้สนับสนุนจึงมีลักษณะเป็นการช่วยให้ความผิดเกิดขึ้นได้สะดวกขึ้น แม้จะไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำโดยตรงก็ตาม

คำพิพากษาฎีกาที่ 7894/2559 

จำเลยที่ 1 ร่วมกันวางแผน ประสานงานหาคนมา ร่วมปล้นทรัพย์โดยมีส่วนรู้เห็นมาตั้งแต่ต้น ตลอดจนพาพวกไปดูลาดเลาบ้านผู้เสียหาย ทั้งสองและตามไปรับส่วนแบ่งใกล้กับที่เกิดเหตุ ซึ่งแม้จำเลยที่ 1 จะมิได้เข้าไปร่วม ปล้นทรัพย์โดยตรง แต่พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 เป็นการช่วยเหลือหรืออำนวย ความสะดวกแก่คนร้าย “ก่อน” การกระทำผิด เข้าองค์ประกอบเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

🔎หาคำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ผ่านทางระบบ ค้นหาฎีกา ของ Legardy

ผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 มีหลักเกณ์ ดังนี้

  1. ต้องมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น 
  2. ต้องมีการกระทำอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกให้คนอื่นลงมือทำความผิด เช่น จัดหาเครื่องมือให้ พาไปกระทำความผิด 
  3. มีเจตนาอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกให้คนอื่นลงมือทำความผิด
  4. การช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นต้องกระทำก่อนหรือขณะกระทำความผิด 
  5. ไม่ว่าผู้ลงมือกระทำความผิดจะรู้หรือไม่รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกหรือไม่ก็ตาม
  6. เมื่อผู้สนับสนุนช่วยเหลือแล้ว ผู้กระทำความผิดต้องได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือนั้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม

ขอบเขตความรับผิดของผู้สนับสนุน

            แม้ผู้สนับสนุนจะไม่ได้ลงมือกระทำผิดด้วยตนเอง แต่เนื่องจากได้ช่วยเหลือให้การกระทำความผิดเกิดขึ้นได้โดยสะดวก ผู้สนับสนุนมีความผิดและต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น


ตารางสรุป ลักษณะของตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน และความรับผิดตามกฎหมาย มีดังนี้

ประเภท

ลักษณะการกระทำ

ขอบเขตความรับผิด

ตัวการ

(มาตรา 83)

บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันลงมือกระทำความผิดไม่ว่าจะทำทั้งหมดหรือบางส่วน

ตัวการทุกคนต้องรับโทษเท่ากันตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

ผู้ใช้

(มาตรา 84)

ผู้ที่ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด ไม่ว่าจะใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน หรือยุยงส่งเสริม หรืออื่น ๆ

  • ถ้ายังไม่ทำหรือไม่สำเร็จ → โทษ 1 ใน 3
  • ถ้าผู้ถูกใช้ทำผิด → รับโทษเสมือนตัวการ
  • ถ้าใช้ผู้เสียเปรียบ →เพิ่มโทษกึ่งหนึ่ง

ผู้สนับสนุน

(มาตรา 86)

ผู้ที่ช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกให้ผู้อื่นทำความผิด

ผู้สนับสนุนรับโทษ 2 ใน 3ของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

⚖️ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง: กฎหมายอาญา ภาค 1 บทบัญญัติทั่วไป

 

สรุป

            บุคคลที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดอาญา ได้แก่ ตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุน หากมีเจตนาเข้ามาเกี่ยวข้องหรือช่วยให้ความผิดเกิดขึ้น กฎหมายก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ลงมือเอง หรือผู้ชักชวน หรือผู้ที่ช่วยเหลือผู้อื่นกระทำความผิด และทุกคนที่กระทำผิดย่อมต้องรับโทษตามกฎหมาย เพราะกฎหมายมุ่งให้ลงโทษทุกคนที่มีส่วนร่วมในการให้ความผิดเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมและเหมาะสมตามส่วนของบุคคลที่ได้กระทำไว้

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
sanook ข่าวสด มติชน spring
cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “