เผยแพร่เมื่อ: 2024-03-03

ให้ที่ดินคนอื่นแล้วยังเป็นเจ้าของอยู่ได้ไหม?

สามารถทำได้ครับ ปกติแล้วบางคนมีที่ดินค่อนข้างมากจะปล่อยทิ้งไว้ให้รกร้างก็เสียดายที่ดิน ทางกฎหมายเล็งเห็นแล้วว่าการให้คนอื่นมาใช้ประโยชน์ในที่ดินตนเองและเจ้าของยังมีกรรมสิทธิ์อยู่ จึงได้กำหนด "ทรัพย์อิงสิทธิ์" ขึ้นมา บทความนี้ Legardy จะพาทุกท่านไปรู้จักกับคำว่า ทรัพย์อิงสิทธิกันครับ

3.png


ทรัพย์อิงสิทธิ คืออะไร?

ทรัพย์อิงสิทธิ คือ สิทธิที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ (ผู้ให้เช่า) มอบให้บุคคลอื่น (ผู้เช่า) เช่าและใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นได้เสมือนเป็นเจ้าของและเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่แท้จริงนั้นยังคงสภาพความเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อยู่ สามารถโอนและตราเป็นประกันการชำระหนี้โดยการจำนองได้  ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาไม่เกิน 30ปี แต่สามารถต่ออายุสัญญาได้อีกครั้งละไม่เกิน 30ปี 

ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการเช่าแต่การเช่านั้นหากเราหมดสัญญาเช่าหรือเสียชีวิตไปอาจจะต้องคืนเจ้าของหรือปล่อยเช่าต่อไม่ได้

บุคคลที่มีสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดในอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิเสมือนหนึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ 
เรียกว่า "ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิ"

บุคคลที่ให้ทรัพย์อิงสิทธิแก่บุคคลอื่น หรือเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เดิมก่อนที่จะมีการให้ทรัพย์อิงสิทธิ
เรียกว่า "เจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์"


ระเบียบของทรัพย์อิงสิทธิ

1.)การยื่นเพื่อทำทรัพย์อิงสิทธิ ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินพร้อมโฉนดหรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด

2.)ระยะเวลาในการให้ทรัพย์อิงสิทธิ ไม่เกิน30ปี และสามารถต่ออายุได้อีกครั้งละไม่เกิน 30ปี

3.)หากหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิเกิดความเสียหาย สามารถขอใบแทนหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิได้ และให้หนังสือรับรองนั้นเป็นอันยกเลิก

4.)ห้ามแบ่งแยกทรัพย์อิงสิทธิ แบ่งแยกออกเป็นหลายแปลงหรือรวมกับที่ดินแปลงอื่นเข้าเป็นแปลงเดียวกันไม่ได้ 

5.)ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิ มีหน้าที่เสมือนเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ยกเว้นสิทธิในการติดตามเอาคืนทรัพย์จากผู้ไม่มีสิทธิ

6.)กรรมสิทธิ์ในสิ่งที่ต่อเติม กรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างที่ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิสร้างขึ้นตกเป็นของเจ้าของอสังหาฯ เมื่อทรัพย์อิงสิทธิสิ้นสุดลง เว้นแต่จะมีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น ยกเว้นห้องชุดตามกฎหมายอาคารชุด

7.)ใช้เป็นหลักประกันในการชำระหนี้ โดยการจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

8.)ทรัพย์อิงสิทธิสามารถโอนให้แก่กันได้

การทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์อิงสิทธิต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อมีการจดทะเบียนแล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทราบโดยเร็ว

9.)ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิ มีสิทธิ์ที่จะยกเลิกทรัพย์อิงสิทธิ์ก่อนครบกำหนดเวลาที่ระบุไว้ได้

10.)เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการให้ทรัพย์อิงสิทธิ ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิต้องส่งมอบอสังหาริมทรัพย์คืนแก่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ตามสภาพปัจจุบัน

 

 


ทรัพย์อิงสิทธิกับสิทธิการเช่า

ทั้งทรัพย์อิงสิทธิและสิทธิการเช่ามีความคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างกันดังนี้

เรื่องทรัพย์อิงสิทธิสิทธิการเช่า
การปล่อยเช่าต่อทำได้ทำไม่ได้
การต่อเติม ก่อสร้าง ดัดแปลงทำได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลง
ใช้ในการชำระหนี้ด้วยการจำนองทำได้ทำไม่ได้
เป็นมรดกตกทอดทำได้ทำไม่ได้
ความเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เป็นเจ้าของในช่วงเวลาที่ตกลงกันไว้ไม่เป็นเจ้าของ
การยกเลิกไม่สามารถยกเลิกได้หากกระทบสิทธิต่อบุคคลที่สามสามารถยกเลิกได้หากมีการบอกกล่าวล่วงหน้า

ความสำคัญของทรัพย์อิงสิทธิ

ทรัพย์อิงสิทธิมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด โดยเฉพาะในกรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์
อสังหาริมรัพย์นั้นไม่ต้องการขายทรัพย์สินของตนเอง แต่ต้องการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์นั้น หรือในกรณีที่ผู้ที่สนใจต้องการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์นั้นในระยะยาวแต่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของเพราะภาระการเป็นเจ้าของนั้นค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ ทรัพย์อิงสิทธินำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ ๆ เช่น การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ การลงทุนในธุรกิจโรงแรม หรือการสร้างแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ


ประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิได้

ตามพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ. 2562 อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิได้ ได้แก่

  • ที่ดิน เช่น ที่ดินเปล่า ที่นา ที่สวน ที่ดินที่ใช้สร้างบ้าน
  • อาคาร เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม
  • สิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่ติดอยู่กับที่ดิน
  • ห้องชุด เช่น ห้องชุดในคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์

1.png

การขอทรัพย์อิงสิทธิที่กรมที่ดิน

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับขอทรัพย์อิงสิทธิ์

  • คำขอจดทะเบียนสิทธิการเช่าทรัพย์อิงสิทธิ
  • สำเนาบัตรประชาชน/หนังสือรับรองนิติบุคคลของผู้ให้เช่าและผู้เช่า
  • สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน, หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด
  • แผนที่แสดงตำแหน่งที่ดินหรือห้องชุด
  • สัญญาเช่า (ทรัพย์อิงสิทธิ) ที่ทำขึ้นระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่า
  • หลักฐานการชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ถ้ามี)
  • เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หนังสือมอบอำนาจ, ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล

ขั้นตอนการขอทรัพย์อิงสิทธิจากกรมที่ดิน

1.)เตรียมเอกสารตามข้างต้น ที่สำนักงานที่ดินตามเขตที่ที่ดินหรือห้องชุดนั้นตั้งอยู่

2.)เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเอกสาร และทำการชำระค่าธรรมเนียม

3.)เมื่อเอกสารครบถ้วนเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจดทะเบียนทรัพย์อิงสิทธิในสารบบที่ดินและออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิให้แก่ผู้เช่า

4.)ผู้เช่าสามารถรับหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิ์ได้ที่สำนักงานเขตที่ดินที่ติดต่อ

เกร็ดความรู้กับ Legardy : เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องอย่างไรให้ไม่โดนมิจฉาชีพสวมรอย คลิกที่นี่เพื่ออ่าน !


สรุป

ทรัพย์อิงสิทธิเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่ช่วยให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์และผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์สามารถได้ประโยชน์ร่วมกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ไม่สูญเสียความเป็นเจ้าของ โดยที่จะก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิ์นั้นควรอ่านสัญญาให้ละเอียดและรอบคอบนะครับ หากไม่มั่นใจในสัญญาทรัพย์อิงสิทธิสามารถติดต่อหาทนายความ เพื่อช่วยดูสัญญา หรือกดที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
sanook ข่าวสด มติชน spring
cta
ปรึกษาทนาย 24 ชั่วโมง
“ ได้รับคำตอบทันที ! “
ติดต่อเราทาง LINE