ขับรถตัดหน้ารถถคันอื่นมีความผิดหรือไม่?

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากความมักง่ายของผู้ใช้รถใช้ถนนทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อตัวเองบ้าง

และหลายครั้งทำให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น หนึ่งในการกระทำที่เห็นได้บ่อยครั้งคือการขับรถตัดหน้ารถคันอื่นเป็นเหตุให้รถคันนั้นต้องหักหลบและทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินในเวลาต่อมา แล้วเคยสงสัยกันไหมครับว่าการขับรถตัดหน้ารถคันอื่นโดยไม่ได้ขับชนทำให้รถคันอื่นต้องหักหลบและเกิดอุบัติเหตุในเวลาต่อ จะมีความผิดตามกฏหมายหรือไม่มีมากน้อยแค่ไหน ในบทความนี้มีคำตอบครับ

'เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนเราเรียกร้องอะไรได้บ้าง? อ่านคำตอบจากทนายความได้ที่นี่ คลิกเลย!'

การขับรถตัดหน้าคนอื่นเป็นการกระทำที่ขาดความระมัดระวังซึ่งคนที่เป็นผู้ควบคุมรถพึ่งมีโดยวิสัยและพฤติการณ์ อันเป็นการกระทำโดยประมาท 

ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 59 วรรคสี่ แม้จะไม่ได้ขับไปชนรถคันอื่นโดยตรงแต่หากเป็นเหตุให้รถคันที่ถูกตัดหน้าต้องหักหลบ

ถือเป็นเหตุแทรกแซงที่คนทั่วไปคาดหมายได้ว่าหากถูกขับรถตัดหน้าแล้วรถคันที่ถูกตัดหน้าจะต้องหักหลบก่อให้เกิดอุบัติเหตุในเวลาต่อมา

 จึงต้องถือว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลโดยตรงของการขับรถตัดหน้าโดยประมาท ผู้ที่ขับรถตัดหน้ารถคันอื่นโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุเกิดความเสียหายแก่ชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น

จึงต้องรับผิดทั้งทางแพ่งฐานละเมิด ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 437,420 ฯ และทางอาญาในเรื่องความผิดเกี่ยวกับการกระทำโดยประมาท เช่น ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวกฏหมายอาญามาตรา 291 ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 300 ฯ 

เมื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักกฏหมายเบื้องต้นแล้วเราลองมาดูตัวอย่างจากคำพิพากษาของศาลฎีกากันครับ

อ่านคำปรึกษาเรื่อง "Q: ญาติโดนเสี่ยขับรถปาดหน้าเสียชีวิต" คลิกเลย!

คำพิพากษาฎีกาที่ 7891/2544

“...จำเลยได้บังคับรถยนต์ที่จำเลยขับเลี้ยวไปทางซ้ายเพื่อเปลี่ยนช่องเดินรถเข้าไปในช่องเดินรถที่ 1 ที่ผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์มาอย่างรีบเร่ง ซึ่งหากจำเลยทอดเวลาไว้ระยะหนึ่งโดยให้สัญญาณไฟเลี้ยวทางด้านซ้ายเพื่อแสดงเจตนาให้รถคันอื่นในบริเวณใกล้เคียงได้ทราบ ผู้เสียหายอาจเร่งความเร็วรถจักรยานยนต์ของตนแซงพ้นรถยนต์ของจำเลยหรือชะลอความเร็วของรถจักรยานยนต์เพื่อเปิดทางให้จำเลยเปลี่ยนช่องเดินรถโดยสะดวก เมื่อจำเลยได้เลี้ยวรถมาทางซ้ายเพื่อเปลี่ยนช่องเดินรถอย่างกะทันหัน จึงเป็นการกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังซึ่งผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์บรรทุกเช่นจำเลยจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์

'เมื่อเกิดอุบัติเหตุถูกรถชนบาดเจ็บควร "ใช้สิทธิอะไร" มีคำตอบมาให้ อ่านเลย คลิก!'

พื้นผิวถนนในช่องเดินรถของผู้เสียหายตรงบริเวณที่เกิดเหตุไม่ปรากฏว่ามีหลุม บ่อ หรือขรุขระ อันจะทำให้การขับขี่และบังคับรถจักรยานยนต์ทำได้ลำบากหรือทำให้เสียการทรงตัว และไม่ปรากฏร่องรอยการเฉี่ยวชนที่ตัวรถยนต์ของจำเลย กรณีจึงเชื่อได้ว่าเพราะเหตุที่จำเลยหักเลี้ยวรถเพื่อจะเปลี่ยนช่องเดินรถโดยกะทันหันขวางเส้นทางเดินรถของผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายต้องหักรถหลบตามสัญชาติญาณทำให้รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายล้มลงและผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส แม้รถยนต์ของจำเลยจะมิได้กระแทกหรือเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย เพราะผู้เสียหายหักรถหลบได้ทัน แต่ก็ต้องถือว่าการที่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายล้มลงและผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสเป็นผลที่เกิดขึ้นโดยตรงจากการกระทำโดยประมาทของจำเลย...”

ต้องการค้นหาด้านกฎหมายใช่ไหม ? สามารถค้นหาบทความ, คำปรึกษาจริง, มาตราที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ !

การทำความผิดของการขับรถโดยประมาท

กล่าวโดยสรุปก็คือ การขับรถตัดหน้ารถคันอื่นเป็นการกระทำโดยประมาทแม้ไม่ได้ชนกับรถคู่กรณีโดยตรง แต่เป็นเหตุให้คู่กรณีต้องหักหลบและเกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่ายกาย ทรัพย์สิน ต่อคู่กรณีก็ต้องถือว่าความเสียหายนั้นเป็นผลโดยตรงจากการขับรถตัดหน้าโดยประมาทนั้นและทำให้ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและอาญาครับ

'ไขข้อสงสัย คดีแพ่งกับคดีอาญา แตกต่างกันอย่างไร?'

เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็หวังว่าทุกคนจะใช้ความระมัดระวัง ความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมทางในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้นครับ เพราะหากเกิดความเสียหายจากความประมาทขึ้นมาแล้ว ก็อาจจะทำให้ชีวิตของเราและผู้อื่นต้องลำบากขึ้นมาอีกมากไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านร่างกายและทรัพย์สินไปอีกหลายปีหรือบางทีอาจจะตลอดชีวิตกันเลยทีเดียว หากมีข้อสงสัยต้องการปรึกษาทนายความเพื่อหาทางออกกฎหมาย สามารถติดต่อผ่าน Legardy ได้ตลอด 24ชั่วโมงครับ