
มารู้จักคำว่า " เพิกถอนการฉ้อฉล "
เราอาจจะเคยได้ยินว่า มีกฎหมายทวงถามหนี้ที่คอยกำหนดว่า เจ้าหนี้จะต้องทวงหนี้อย่างไร ห้ามทวงกี่โมงถึงกี่โมง เพื่อคุ้มครองลูกหนี้ จนทำให้เจ้าหนี้หลาย ๆ คน รู้สึกว่าช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!
'หาคำตอบได้ที่นี่ คลิก! : ทวงหนี้อย่างไรให้ไม่ผิดกฎหมาย?'
แต่จริง ๆ แล้วกฎหมายไม่ได้คุ้มครองลูกหนี้ฝ่ายเดียวนะครับ ยังมีกฎหมายที่คุ้มครองเจ้าหนี้ด้วยเหมือนกัน เช่น กรณีลูกหนี้ต้องการจะเบี้ยวหนี้ เลยรีบจัดการโอนทรัพย์สินของตนเองไปเป็นชื่อของบุคคลอื่น อาจจะเป็นสามีบ้าง ภรรยาบ้าง เพื่อนฝูงบ้าง ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ฟ้องยึดทรัพย์เหล่านั้นได้
ทรัพย์อะไรบ้างที่เจ้าหนี้สามารถยึดได้บ้าง? หาคำตอบที่นี่!
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตามกฎหมาย เจ้าหนี้สามารถฟ้องศาลเพื่อตามไปยึดทรัพย์เหล่านั้นกลับมาได้นะครับ โดยกระบวนการนี้เรียกว่า “เพิกถอนการฉ้อฉล” ฟังดูแล้วเข้าใจยาก แต่นั่นก็เป็นช่องทางที่ทำให้เจ้าหนี้สามารถฟ้องเพิกถอนนิติกรรมที่ลูกหนี้ทำลงไปได้ โดยกฎหมายมีเจตนารมณ์เพื่อเป็นการให้สิทธิแก่เจ้าหนี้ที่จะสงวนไว้ซึ่งกองทรัพย์สินของลูกหนี้ เพราะทรัพย์สินของลูกหนี้ย่อมเป็นหลักประกันในการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้นั่นเอง
'อ่านคำปรึกษาจริงเรื่องฉ้อฉล ได้ที่ลิงค์ข้างล่าง!'
Q : ฟ้องรื้อสัญญายอมเอาทรัพย์คืนเนื่องจากมีการฉ้อฉล
Q: ระยะที่โอนเงินในบัญชีแล้วไม่เสี่ยงคดีอาญา หรือคดีฉ้อฉลมีไหม
ดังนั้น หากเป็นกรณีที่ลูกหนี้รู้ตัวอยู่แล้วว่าจะโดนฟ้อง และทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีรถอยู่แค่คันเดียว ใช้ขับไปทำงานทุกวัน จึงเกิดความกลัวว่าจะโดนยึดรถ เลยรีบโอนไปเป็นชื่อคนใกล้ตัวแบบนี้ เจ้าหนี้ก็สามารถฟ้องเพิกถอนการฉ้อฉล เพื่อให้รถกลับมาเป็นของลูกหนี้ และยึดไปขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้ได้นะครับ
'กังวลใจเรื่องหนี้สินอยู่ใชไหม ทนายของLegardy พร้อมช่วยเหลือคุณจนได้ทางออก ปรึกษาเลย!'
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว
สมัครเป็นทนายออนไลน์
แพล็ทฟอร์มรวบรวม
งานกฎหมายจากทั่วประเทศ








