เนติบัณฑิต หรือที่เรานิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “เนติ” เป็นใบประกาศนียบัตรที่ออกโดย เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีวุฒิทางการศึกษาที่สูงกว่าระดับปริญญาตรี (คือต้องจบนิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยที่ทางเนติบัณฑิตยสภาให้การรับรองก่อนแล้วจึงมาเรียนได้ ไม่จำกัดเกรดเฉลี่ยผู้สมัคร) 👇🏻👇🏻👇🏻

📌📌แต่ก็ไม่ใช่ปริญญาโททางด้านกฎหมายนะครับ📌📌โดยหลักสูตรการเรียนนี้จะใช้ระยะเวลาในการเรียน 1 ปี แต่หากไม่สามารถจบได้ภายในระยะเวลา 1 ปี ทางสำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาฯ จะให้สิทธิ์ในการต่อทะเบียนการเรียนได้ ซึ่งในการเรียนการสอน จะเน้นการเอาตัวบทกฎหมายและคำพิพากษาศาลฎีกามาใช้ในการสอนและออกสอบเป็นหลักครับ

✅ส่วนในการออกสอบนั้นจะแบ่งเป็น 4 ขา รวมหลากหลายวิชาทางด้านกฎหมายไว้ในแต่ละขา แล้วนักศึกษาต้องตอบให้ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง คือคะแนนเต็ม 100 จะผ่านต้องได้ 50 คะแนน ดูเหมือนทำไมมันง่ายๆใช่ไหมครับ เอาแค่ผ่านครึ่งเดียว แต่ความจริงไม่ใช่เลยครับ เพราะมีการตรวจข้อสอบที่เข้มข้นมาก ใช้อาจารย์ทางด้านกฎหมายยหลายท่านต่อการตรวจข้อสอบนักศึกษาในแต่ละข้อแล้วมาหารเฉลี่ยคะแนน โดยพิจารณาจาก ธงคำตอบ หลักกฎหมาย และการเขียนปรับบทกฎหมายจากโจทย์ที่ให้มา ฯลฯ การเรียนก็มีภาคปกติ และภาคค่ำ ขาไหนสอบได้แล้วก็ไม่ต้องสอบขานั้นซ้ำอีก สอบเฉพาะขาที่ยังไม่ผ่านครับ

✅โดยการเรียนและการสอบ จะแบ่งเป็น 2 เทอม เทอม 1 จะเป็นขาแพ่งและอาญา ส่วนเทอมที่ 2 จะเป็นขาวิแพ่งและวิอาญา

💜ขาแพ่ง

ก็จะมี กฎหมายแพ่งพาณิชย์ทั้งหมด (ทรัพย์ หนี้ นิติกรรม สัญญา ละเมิด ซื้อขาย-เช่าทรัพย์-เช่าซื้อ ตัวแทน-ประกันภัย-ตั๋วเงิน-บัญชีเดินสะพัด หุ้นส่วน-บริษัท ค้ำประกัน จำนำ จำนอง ตั๋วเงิน ครอบครัว มรดก) รวมถึงวิชาทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศ

🧡ขาอาญา

กฎหมายอาญาทั้งหมด (ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ทรีัพย์ ปล้นทรัพย์ ข่มขืน อนาจาร ฆ่าผู้อื่น บุกรุก หน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ วางเพลิงเผาทรัพย์ ลหุโทษ ฯลฯ) แล้วก็มีพวก กฎหมายภาษี กฎหมายแรงงาน กฎหมายปกครอง รัฐธรรมนูญ

💙ขาวิแพ่ง

พวกเรื่องการดำเนินคดีแพ่งในศาล (คู่ความ คำพิพากษาและคำสั่ง วิธีพิจารณาสามัญในศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา การบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่แก้ไขใหม่ รวมถึงกฎหมายล้มละลาย กฎหมายฟื้นฟูกิจการ พระธรรมนูญศาลยุติธรรม)

💛ขาวิอาญา

เป็นเรื่องขั้นตอนในการดำเนินคดีอาญา (สอบสวน วิธีพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม เช่น จับ ขัง จำคุก ปล่อยชั่วคราว พยานหลักฐาน ว่าความและการถามพยาน รวมถึงการจัดทำเอกสารทางกฎหมาย ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย)

ซึ่งในการจัดสอบแต่ละครั้ง ทำอย่างรัดกุมและเข้มข้นมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะมีข้อสอบรั่วไหล มีการทุจริต หรือการใช้เส้นสาย เหมือนการสอบอื่นๆที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา เพราะในการสอบแต่ละขาจะกำหนดสอบขาละ 1 วัน มีทั้งหมด 10 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 4 ชั่วโมงรวด ห้ามขีดเขียน ห้ามทำสัญลักษณ์ ห้ามออกจากห้องถ้ายังไม่ผ่านสามชั่วโมงไปแล้ว (ป้องกันการส่งกระดาษคำถามให้บุคคลภายนอกระหว่างการสอบ) ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์ทุกอย่างเข้าห้องสอบ ยกเว้นปากกและเครื่องเขียน ❌❌❌

และเมื่อสอบเสร็จแล้วห้ามนำข้อสอบแม้จะขีดเขียนแล้วออกไปนอกสนามสอบด้วย (ในอดีตให้เอาออกไปได้ครับ) และข้อห้ามอื่นๆอีกมากมาย โดยจัดสอบในสถานศึกษาต่างๆ ตามที่กำหนด เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง เนติบัณฑิต มหาวิทยาลัยสยาม เป็นต้น ⭕️⭕️⭕️

ส่วนใหญ่ในแต่ละครั้งก็จะสอบผ่านกันประมาณ 5-20% แล้วแต่ข้อสอบในปีนั้นๆ ยากหรือง่าย ตรงกับที่อ่านมาหรือไหม บางปีสอบหลายพันจนถึงหลักหมื่น แต่ผู้สอบผ่านมีเพียงหลักร้อยก็มีมาหลายสมัยครับ 😱😱😱

โดยหลักๆ ผู้ที่อยากสอบผ่านเนติบัณฑิต ก็เพื่อเอาไปต่อยอดเป็นคุณสมบัติ ในการสอบ ผู้พิพากษา พนักงานอัยการ ผู้ช่วยผู้พิพากษา ***แต่ทั้งนี้บางคนอาจสับสนว่าแล้วอาชีพทนายจำเป็นต้องจบเนติบัณฑิตเหมือนกันหรือไหม? 📚 📖

คำตอบคือไม่ต้องครับ แต่ทนายจะเป็นสมาชิกวิสามัญของเนติบัณฑิตครับ สรุปง่ายๆ คือ การเป็นทนาย จะต้องสอบใบอนุญาตว่าความ หรือเรียกกันทั่วไปว่า "ตั๋วทนาย" ซึ่งเป็นการจัดสอบของทางสภาทนายความ ไม่ใช่ของเนติบัณฑิตครับ 😏😏

คราวนี้ทุกคนที่จบปริญญาตรีทางด้านกฎหมายจำเป็นต้องสอบให้ได้เนติบัณฑิตไหม?? คำตอบคือไม่ต้องก็ได้ ทำงานได้เหมือนกัน แต่เพียงแต่ถ้าคุณสอบผ่าน มันก็เหมือนการการันตีว่าคุณมีความรู้ความสามารถพอสมควร ได้ผ่านการฝึกอบรมและทดสอบจากสถาบันเฉพาะทางกฎหมายแล้ว ไม่ว่าคุณจะจบปริญญาตรีด้านกฎหมายมาจากสถาบันไหนในประเทศก็ตาม คนอื่นอาจจะให้ความเชื่อถือในความรู้ทางด้านกฎหมายของคุณเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่ออาชีพการงานในอนาคต 👏🏻👏🏻👏🏻

ดังคำคมในหมู่นักกฎหมายที่ว่า "จบนิติที่ไหนไม่สำคัญ เพราะยังไงเธอกับฉันก็ต้องไปเจอกันที่เนติ" !!!55+ :) 😁😁😁