คิดสักนิด ก่อนตัดสินใจเซ็นเป็นผู้ค้ำประกัน
สำหรับใครที่ต้องการใช้เงินด่วน แต่ตัวเองไม่มีเครดิตทางการเงิน หรือมีเครดิตทางการเงินที่ไม่ดีมากนัก ส่งผลให้กู้เงินผ่านได้ยากขึ้น ซึ่งหนึ่งในวิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุด คือ หาผู้ค้ำประกันมาเซ็นรับรอง ทั้งนี้ก็เพื่อใช้เป็นหลักค้ำประกัน ช่วยการันตีความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยหากลูกหนี้ค้างชำระ ผู้ค้ำประกันจะมีส่วนรับผิดชอบแทนทันที เพราะฉะนั้นแนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจเซ็นเป็นผู้ค้ำประกัน
'หากประสบปัญหาเรื่องค้ำประกัน Legardy มีทนายความที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยเฉพาะ คลิก'

ผู้ค้ำประกันคือใคร?
ผู้ค้ำประกัน คือ ผู้ที่ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรกับเจ้าหนี้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ผู้ค้ำประกันจะรับชำระหนี้แทน ตามเงื่อนไขรายละเอียดในสัญญา
คุณสมบัติของคนที่สามารถเป็นผู้ค้ำประกันได้
หลายคนพอทราบว่า หากมีผู้เซ็นค้ำประกันจะช่วยให้กู้ผ่านได้ง่ายขึ้น จึงหาใครมาเซ็นก็ได้ แต่แท้ที่จริงแล้วผู้ค้ำประกันต้องผ่านคุณสมบัติ ดังนี้ 1.) อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 2.) มีอาชีพและมีรายได้ที่มั่นคง 3.) ระบุที่อยู่ในการติดต่ออย่างชัดเจน 4.) รับทราบว่าหากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบแทน
'อ่านบทความจากทนายความผู้เชี่ยวชาญเรื่องการค้ำประกัน คลิก'
ขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน
ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็นหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แต่อาจมีความจำเป็นหรือสถานการณ์บังคับจากเพื่อนสนิท คนรู้จัก หรือญาติพี่น้อง ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีกฎหมายค้ำประกัน ฉบับปรับปรุงใหม่ 2558 ระบุขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน ดังนี้ 1.) ผู้ค้ำประกันสามารถระบุวงเงินสูงสุดและระยะเวลาในการค้ำประกันได้ 2.) ผู้ค้ำประกันไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบหนี้สินแทนลูกหนี้ทั้งหมด 3.) หากลูกหนี้ผิดนัดชำระ เจ้าหนี้ต้องทำหนังสือแจ้งผู้ค้ำประกันให้รับทราบก่อนภายใน 60 วัน
ต้องการค้นหาด้านกฎหมายใช่ไหม ? สามารถค้นหาบทความ, คำปรึกษาจริง, มาตราที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ !

สิทธิคุ้มครองทางกฎหมายที่ผู้ค้ำประกันจะได้รับ
เจาะลึกรายละเอียดขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน ที่ได้รับสิทธิความคุ้มครองทั้ง 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. สามารถจำกัดวงเงินก่อนเซ็นค้ำประกันได้
ก่อนจะทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ค้ำประกันสามารถระบุวงเงินสูงสุด และระยะเวลาความรับผิดชอบในการค้ำประกันได้
2. ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ทั้งหมด
ในกรณีลูกหนี้ผิดนัดชำระ ผู้ค้ำประกันรับผิดชอบเฉพาะในส่วนของผู้ค้ำประกันเท่านั้น กล่าวคือ ชำระหนี้ในส่วนที่ตกลงกันไว้ โดยไม่ต้องชำระดอกเบี้ย และยังสามารถใช้สิทธิฟ้องไล่เบี้ยกับลูกหนี้ได้ หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาทนาย ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3. เจ้าหนี้ต้องทำหนังสือแจ้งผู้ค้ำประกันล่วงหน้า 60 วัน
อีกหนึ่งกรณี หากลูกหนี้ผิดนัดชำระ เจ้าหนี้ต้องทำหนังสือแจ้งผู้ค้ำประกันล่วงหน้า 60 วันนับตั้งแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระ โดยระหว่างนั้นเจ้าหนี้ไม่สามารถทวงถามกับผู้ค้ำประกันได้
สรุปบทความ
ไม่ว่าจะด้วยความเกรงใจหรือความใจดี ที่ทำให้ตัดสินใจเซ็นเป็นผู้ค้ำประกัน ส่งผลให้เป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว แต่ปัจจุบันได้มีกฎหมายที่ครอบคลุมความคุ้มครองให้กับผู้ค้ำประกันมากขึ้น ควรศึกษาข้อกฎหมาย ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา เพราะกฎหมายอาจคุ้มครองผู้ค้ำประกันได้ไม่สูงสุด หากไม่ระบุเงื่อนไขขอบเขตในการชำระหนี้ให้ชัดเจน หากมีข้อสงสัยต้องการปรึกษาทนายความเพื่อหาทางออกกฎหมาย สามารถติดต่อผ่าน Legardy ได้ตลอด 24ชั่วโมงครับ
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว
สมัครเป็นทนายออนไลน์
แพล็ทฟอร์มรวบรวม
งานกฎหมายจากทั่วประเทศ



