กฎหมายฎีกา ปี 2538

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4738

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4738/2538

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 32, 33 พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ม. 17, 45

การที่จำเลยได้จำหน่ายขายสุราของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิตอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสุราพ.ศ.2493มาตรา17นั้นมาตรา45ไม่ได้บัญญัติให้ริบสุราในกรณีเช่นนี้ไว้ศาลไม่ริบสุราของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2538

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 59, 80, 90, 288, 295 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 195

เมื่อวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าและลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายแล้วการกระทำอันเดียวกันนี้เองจำเลยไม่มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกบทหนึ่งคงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายเพียงบทเดียวเท่านั้นปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2538

พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ม. 27

เฮโรอีนจำนวน3,491กิโลกรัมที่จำเลยพยายามนำหรือพาออกนอกราชอาณาจักรเป็นของที่มีไว้เป็นความผิดไม่อาจเสียภาษีได้มิใช่เป็นการนำหรือพาออกไปนอกราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯมาตรา27อีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6588

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6588/2538

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1375 วรรคสอง, 1377

จำเลยเข้าไปแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากโจทก์เมื่อเดือนสิงหาคมหรือกันยายน2532แต่โจทก์ยื่นฟ้องเอาคืนการครอบครองเมื่อวันที่13พฤศจิกายน2533ซึ่งเกินกว่า1ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองโจทก์จึงหมดสิทธิฟ้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375วรรคสอง ระหว่างที่จำเลยเข้าไปแย่งการครอบครองแม้โจทก์จะรื้อถอนกระท่อมที่จำเลยปลูกแล้วก็ตามแต่จำเลยก็ยังไม่ได้สละการครอบครองที่ดินพิพาทกรณีจึงไม่ต้องเริ่มนับระยะเวลาการแย่งการครอบครองใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3629

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3629/2538

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 334

ผู้เสียหายส่งธนบัตรฉบับละ100บาทให้แก่จำเลยเพื่อชำระหนี้ค่าโดยสารรถเป็นเงิน5บาทถือว่าผู้เสียหายมอบการครอบครองธนบัตรดังกล่าวให้แก่จำเลยการที่จำเลยไม่ได้ทอนเงินให้ทันทีหรือแม้ไม่มีเจตนาจะทอนเงินให้โดยจะเอาเงินที่เหลือจำนวน95บาทเป็นประโยชน์ของตนโดยทุจริตก็ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์เพราะเจตนาทุจริตเกิดขึ้นภายหลังที่ธนบัตรอยู่ในความครอบครองของจำเลยแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578/2538

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 221, 224

เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยจำเลยต้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาภายใน15วันนับแต่วันฟังคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา224แต่ตามคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของจำเลยกลับขอให้ผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อเป็นองค์คณะในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงถือได้ว่าจำเลยมิได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาผลคือคดีย่อมยุติลงตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น การขออนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องยื่นเสียก่อนพ้นระยะเวลายื่นฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1760

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1760/2538

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 80

จำเลยใช้น้ำมันเบนซินราดที่พื้นซีเมนต์หน้าประตูและที่ประตูเข้าบ้านชั้นล่างของผู้เสียหายแล้วใช้ไม้ขีดจุดเผาพื้นซีเมนต์และประตูดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามไปเผาผนังซีเมนต์กระจกหน้าต่างและเสื้อผ้าของผู้เสียหายพฤติการณ์เช่นนี้ไม่เป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้เพลิงไหม้บ้านของผู้เสียหายได้หากชาวบ้านไม่ช่วยดับเพลิงไว้ทันท่วงทีบ้านก็ต้องถูกเพลิงไหม้วอดหมดกรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา218,80ไม่ใช่มาตรา81

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497/2538

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 177 วรรคสาม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อสินค้าผ้าอนามัยไปจากโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชำระราคาเป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาซื้อขายส่วนฟ้องแย้งของจำเลยกล่าวอ้างว่าโจทก์ทำสัญญาตั้งจำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของโจทก์ในประเทศไทยโดยจำเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการโฆษณาสินค้าและส่งเสริมการขายและโจทก์บอกเลิกสัญญาไม่ชอบขอให้โจทก์ชำระค่าเสียหายเป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาตัวแทนดังนี้ฟ้องแย้งเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา177วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2538

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1304 (3), 1305

กระทรวงเกษตราธิการได้สงวนหวงห้ามที่ดินพิพาทไว้ใช้ประโยชน์ในทางราชการตั้งแต่ปี2459เป็นต้นมาที่ดินพิพาทจึงตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภททรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1304(3)แม้กระทรวงเกษตราธิการและจำเลยที่1ยังมิได้รับใบไต่สวนและยังไม่ได้ออกโฉนดก็ไม่ทำให้สภาพที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่แล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปโจทก์ไม่อาจอ้างการครอบครองในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินยันจำเลยที่1ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1305

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2538

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 290

ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยที่2อ้างในคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ว่าผู้ร้องไม่มีทางบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่2ได้จำเลยที่2ไม่โต้เถียงในคำคัดค้านว่าตนมีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องอาจบังคับชำระได้ฟังได้ว่าจำเลยที่2ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องอาจยึดมาชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิงผู้ร้องจึงขอเฉลี่ยในทรัพย์ที่ถูกยึดได้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา290วรรคสองห้ามศาลอนุญาตให้เข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์หากยังสามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้นั้นมิได้หมายถึงลูกหนี้อื่นแม้จะเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาร่วมกับจำเลยที่ถูกยึดทรัพย์ก็ตาม

»