ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ตั้งโรงงานผลิตน้ำส้มสายชูได้ทำผิดกฎหมาย คือโรงงานของจำเลยไม่มีระบบขจัดน้ำทิ้ง และได้ระบายน้ำทิ้งออกจากโรงงานซึ่งน้ำทิ้งดังกล่าวอาจก่อให้เกิดเหตุเดือนร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นได้ และต่อมาอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมอาศัยอำนาจตามมาตรา 36(3) แห่งพระราชบัญญัติโรงงานฯ ได้สั่งการให้จำเลยแก้ไขปรับปรุงโรงงานและสร้างระบบขจัดน้ำทิ้งตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฯ ภายในเวลากำหนด แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 มาตรา 36(3), 48 พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2518 มาตรา 13 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าโรงงานของจำเลยรบกวนทำความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้านเกี่ยวกับน้ำทิ้งและไม่ปรากฏว่าน้ำทิ้งจากโรงงานของจำเลยก่ออันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินใด ๆ อธิบดีกรมโรงงานไม่มีอำนาจออกคำสั่งดังกล่าว การที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามจึงไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้วข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างฟังมาว่าโรงงานของจำเลยไม่มีระบบขจัดน้ำทิ้งตามแบบที่กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความเห็นชอบอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้สั่งให้สร้างระบบขจัดน้ำทิ้งให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2520 น้ำทิ้งที่ผ่านระบบขจัดน้ำทิ้งแล้วให้มีลักษณะตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 โดยให้จำเลยจัดแบบทำแปลนแผนผังระบบขจัดน้ำทิ้งส่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจสอบเพื่อให้ความเห็นชอบภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2519 แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม โรงงานของจำเลยมีบ่อพักน้ำโสโครกอยู่แล้ว ไม่เคยรบกวนหรือทำความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้านที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 มาตรา 36(3) ที่ว่าพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจัดการเปลี่ยนแปลงซ่อมแซมเกี่ยวกับโรงงานหรือเครื่องจักร หรือเกี่ยวกับการอื่นที่ก่อให้เกิดความรำคาญหรืออันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด มีความหมายว่าเมื่อโรงงานหรือเครื่องจักรหรือเกี่ยวกับการอื่น (เช่นการระบายน้ำทิ้งในกรณีคดีนี้) ของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงาน ได้ก่อให้เกิดความรำคาญหรืออันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ผู้อื่น พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจมีคำสั่งให้ผู้นั้นจัดการเปลี่ยนแปลงซ่อมแซมสิ่งนั้น ๆ ให้เรียบร้อยเพื่อไม่ก่อให้เกิดความรำคาญหรืออันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินอีกต่อไป เห็นได้ว่าอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะมีอำนาจออกคำสั่งตามกฎหมายมาตราดังกล่าวแก่จำเลยซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบกิจการอุตสาหกรรมอยู่แล้วได้ต่อเมื่อโรงงานอุตสาหกรรมของจำเลยได้ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญหรืออันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นตามที่กฎหมายได้บัญญัติบังคับไว้เท่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการปล่อยน้ำทิ้งของโรงงานจำเลยไม่เคยก่อให้เกิดความรำคาญหรืออันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้ใดเลยเช่นนี้ อธิบดีกรมโรงงานย่อมไม่มีอำนาจออกคำสั่งตามกฎหมายมาตรานี้บังคับจำเลย แม้ออกมาก็ย่อมไม่มีผลบังคับการที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น จึงไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายที่โจทก์ขอมาให้ลงโทษ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th