ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งห้าสำนวนฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งห้าพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยทั้งห้าสำนวนให้การปฏิเสธขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าโรงงานยาสูบกระทรวงการคลังมิใช่ราชการส่วนกลางหาได้รับการยกเว้นมิให้ใช้ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานบังคับไม่การที่โจทก์ทั้งห้าออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างลูกจ้างประจำที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนบำเหน็จที่จำเลยจ่ายให้แล้วเป็นเงินประเภทอื่นมิใช่ค่าชดเชยจำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ทั้งห้านับแต่วันเลิกจ้างเมื่อไม่จ่ายจึงตกเป็นผู้ผิดนัดต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี

จำเลยทั้งห้าสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่าโรงงานยาสูบมิใช่กรมหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมีฐานะเป็นกรมในสังกัดของกระทรวงการคลังดังนั้นโรงงานยาสูบกระทรวงการคลังจึงมิใช่ราชการส่วนกลางหาได้รับการยกเว้นมิให้ใช้ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานลงวันที่16เมษายน2515บังคับไม่

การที่ระเบียบโรงงานยาสูบกระทรวงการคลังว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานพนักงานยาสูบพ.ศ.2518ข้อ4(2)กำหนดคุณสมบัติพนักงานไว้ว่ามีอายุไม่เกิน60ปีบริบูรณ์และตามข้อ5ที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2520ข้อ2ซึ่งกำหนดว่าพนักงานยาสูบคนใดมีอายุครบ60ปีบริบูรณ์แล้วถือว่าครบเกษียณอายุและพ้นจากตำแหน่งหน้าที่เมื่อสิ้นปีงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณของปีที่พนักงานผู้นั้นมีอายุครบ60ปีบริบูรณ์ระเบียบดังกล่าวนี้ได้ออกมาภายหลังที่พระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจพ.ศ.2518มีผลบังคับแล้วระเบียบนี้จึงได้ออกมาเพื่ออนุวัตตามพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งเป็นการกำหนดคุณสมบัติโดยแท้กรณีหาใช่ว่าจำเลยต้องถูกผูกพันที่จะต้องจ้างโจทก์ทั้งห้าจนมีอายุครบ60ปีบริบูรณ์ไม่จำเลยจะเลิกจ้างเมื่อใดก็ได้ก่อนโจทก์ทั้งห้ามีอายุครบ60ปีบริบูรณ์ดังนั้นการจ้างระหว่างจำเลยกับโจทก์ทั้งห้าจึงมิใช่การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน

ค่าชดเชยเป็นเงินที่จำเลยต้องจ่ายให้แก่โจทก์ทั้งห้าตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานซึ่งเป็นเงินต่างประเภทกับเงินบำเหน็จที่จำเลยต้องจ่ายให้แก่โจทก์ทั้งห้าตามระเบียบการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานยาสูบพ.ศ.2500ลงวันที่11มีนาคม2500กับระเบียบการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานยาสูบ(ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่1)ลงวันที่8พฤศจิกายน2510และระเบียบโรงงานยาสูบกระทรวงการคลังพ.ศ.2500(ฉบับที่2)พ.ศ.2522ลงวันที่20สิงหาคม2522ดังนั้นเงินบำเหน็จที่จำเลยจ่ายไปแล้วตามระเบียบดังกล่าวจึงถือไม่ได้ว่าเป็นค่าชดเชยจำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ทั้งห้าอีกเนื่องจากค่าชดเชยเป็นเงินที่นายจ้างต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้างเมื่อจำเลยไม่จ่ายจึงตกเป็นผู้ผิดนัดนับแต่วันเลิกจ้างต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ทั้งห้า

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา ADMIN

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th