ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2531 เวลากลางวันจำเลยได้ลักทรัพย์รถยนต์โตโยต้า โคโรน่า ของห้างหุ้นส่วนจำกัดไฮเวย์คาร์เร้นท์ โดยมีนายธวัชชัย เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้เสียหายซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(11)

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(11) วรรคสอง ให้จำคุกจำเลย 3 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในเบื้องต้นจำเลยได้นำรถยนต์ออกจากห้างผู้เสียหายเพื่อไปทำความสะอาด เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2531ยามของห้างก็ได้บันทึกหมายเลขทะเบียนรถยนต์ ชื่อผู้นำเอาออกไปและวันเวลาที่นำออกไป ต่อมาจำเลยได้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อรับน้าชายกับครอบครัวไปจังหวัดนครราชสีมา แต่เฟืองท้ายรถเสียจึงขับต่อไปไม่ได้ และจำเลยไม่สามารถหาเฟืองท้ายไปซ่อมรถยนต์คันดังกล่าวจึงมิได้นำรถยนต์มาคืนผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายได้รับคืนจากเจ้าพนักงานตำรวจในวันที่ 4 มีนาคม 2531 การกระทำของจำเลยเป็นกรณีที่จำเลยพารถยนต์ผู้เสียหายเคลื่อนที่ไป อาจเป็นการแย่งการครอบครองไปจากผู้เสียหาย ถือเป็นการเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปอาจเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ แต่ในคดีนี้จำเลยนำรถยนต์ของผู้เสียหายไปส่งน้าชายและครอบครัวที่จังหวัดนครราชสีมา ถ้าเหตุการณ์ปกติย่อมเห็นได้ว่าเมื่อส่งน้าชายและครอบครัวเสร็จแล้วย่อมนำมาคืนผู้เสียหายได้ แต่ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวเฟืองท้ายเสีย จำเลยจึงไม่สามารถนำมาคืนผู้เสียหายได้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยเจตนาจะเอารถยนต์ผู้เสียหายไปใช้ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าหากจำเลยเจตนาจะเอาทรัพย์ไปเป็นการถาวรอันเป็นลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์ จำเลยคงจะเอาไปในลักษณะที่ต้องหลบเลี่ยงจากการบันทึกของยามที่ห้างทั้งจำเลยคงจะไม่ทิ้งใบขับขี่ บัตรประจำตัว หลักฐานเกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์ไว้ในรถ อันเป็นหนทางที่จะสืบหาถึงตัวจำเลยได้สะดวกนอกจากนี้จำเลยยังได้มอบกุญแจรถยนต์ไว้กับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ที่รถจอดอยู่ด้วย พฤติการณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าจำเลยเพียงแต่เอารถผู้เสียหายไปใช้ชั่วคราว มิได้กระทำเพื่อเป็นการตัดกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหายตลอดไป จึงมิใช่เป็นการกระทำที่ถือว่าเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป อันจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th