สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 75, 448

อธิบดีกรมทางหลวงเป็นผู้แทนของกรมทางหลวงแต่ผู้เดียวเจ้าหน้าที่อื่น ๆ หาใช่ผู้แทนไม่ ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่าอธิบดีได้ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนนับถึงวันฟ้องยังไม่เกินหนึ่งปีคดีจึงยังไม่ขาดอายุความ

เนื้อหาฉบับเต็ม

จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนราวเหล็กของโจทก์เสียหาย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหาย 8,000 บาทกับดอกเบี้ย จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คดีมีปัญหามาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเพียงว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังว่า เมื่อวันที่15 ตุลาคม 2517 นายนิตย์ จิตต์สาตรา นายช่างแขวงการทางชลบุรี ได้วิทยุรายงานเรื่องรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ร.ย. 02692 ชนราวเหล็กของโจทก์ไปยังอธิบดีกรมทางหลวง แต่ตามรายงาน ครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาวันที่ 7 พฤศจิกายน 2517 นายนิตย์ได้รับหนังสือจากร้อยตำรวจโทสุรัชฎ์ โพธิสุนทร แจ้งว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์คันที่ชนราวเหล็กของโจทก์ นายนิตย์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยที่ 1 มาชำระค่าเสียหาย แต่ส่งไม่ได้ นายนิตย์จึงทำรายการเสนอเขตการทางเมื่อเดือนพฤษภาคม 2518 เขตการทางทำบันทึกลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2518 เสนอไปยังกองบำรุง กองบำรุงส่งเรื่องไปยังกองนิติการ กองนิติการบันทึกลงวันที่ 20 สิงหาคม 2518 ทำความเห็นเสนอรองอธิบดีฝ่ายธุรการ แล้วเสนอเรื่องตามลำดับชั้นไปถึงอธิบดีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2518 อธิบดีกรมทางหลวงทราบว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ร.ย. 02692 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม2518 ข้อเท็จจริงฟังได้ดังนี้ การที่จะถือว่าโจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนก็โดยการแสดงให้ปรากฏแก่ผู้แทนทั้งหลายของโจทก์ ปรากฏตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 ข้อ 32 วรรคสองว่า กรมอธิบดีเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของกรมดังนั้นอธิบดีกรมทางหลวงจึงเป็นผู้แทนของกรมทางหลวงโจทก์แต่ผู้เดียว เจ้าหน้าที่ของโจทก์ทั้งหลายตามที่จำเลยฎีกาหาใช่เป็นผู้แทนของโจทก์ไม่ เมื่อปรากฏชัดว่าอธิบดีกรมทางหลวงได้ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะถึงใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ 22 สิงหาคม 2518 และโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2519 ภายในกำหนด 1 ปี คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความตามที่จำเลยที่ 2 ฎีกา"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - กรมทางหลวง จำเลย - นายจัง แซ่แต้ กับพวก

ชื่อองค์คณะ ชุบ วีระเวคิน สมชัย ทรัพยวณิช แต่ง ทองภักดี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE