โจทก์ฟ้องว่า ร้อยตรีทวีปขับรถยนต์ไปตามถนนสุขุมวิท เมื่อถึงปากซอยกลางจำเลยได้ขับรถเลี้ยวขวาเพื่อข้ามถนน เป็นเหตุให้ร้อยตรีทวีปต้องเบนหนีและเฉี่ยวโดนรถจำเลยและรถยนต์ของร้อยตรีทวีปเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าเสียหาย ร้อยตรีทวีปและคนที่นั่งไปด้วยได้รับบาดเจ็บ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ร้อยตรีทวีปผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต

ในระหว่างพิจารณาสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นให้งดสืบร้อยตรีทวีปผู้เสียหายและนายอุดม บุตรทวี พยานโจทก์ โดยเหตุว่าได้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ทั้งสองนี้มาหลายนัดแล้ว แต่ไม่สามารถนำมาสืบได้ ซึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการประวิงคดี เมื่อสืบพยานโจทก์ที่เหลือและสืบพยานจำเลยแล้ว ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าที่รถชนกันไม่ได้เกิดจากความประมาทของจำเลย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่า ศาลชั้นต้นตัดพยานโจทก์ไม่ชอบศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ข้อนี้เป็นอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนอุทธรณ์ในข้อที่ว่าจำเลยไม่ประมาทนั้น ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่รับอุทธรณ์ โจทก์ร่วมจึงอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์นี้

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ประวิงความ ศาลสั่งงดสืบพยานชอบแล้ว ส่วนอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์นั้น เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์แล้วพิพากษายืน

โจทก์ร่วมฎีกาว่า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ไม่ชอบ และฎีกาว่าอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งไม่รับเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย ขอให้รับ

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่โจทก์ร่วมฎีกาโต้แย้งว่าศาลชั้นต้นได้สั่งตัดพยานโจทก์ 2 ปากเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาไปอีกทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นจะไปเผชิญสืบทนายโจทก์ก็ขัดข้องว่าไม่ทราบที่อยู่ของพยานไม่สามารถนำศาลไปเผชิญสืบได้ ส่วนรายนายอุดมพยานอีกปากหนึ่งนั้น โจทก์อ้างว่าไปต่างจังหวัด ไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ไม่สามารถนำพยานมาสืบได้ตามพฤติการณ์เช่นนี้เป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์ 2 ปากนั้นชอบแล้วส่วนฎีกาของโจทก์ร่วมอีกข้อหนึ่งที่ขอให้รับอุทธรณ์นั้น เห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นที่ศาลล่างทั้งสองสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา