สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2525

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 90, 91 พระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 ม. 53, 53 ทวิ

เดิมกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในมาตราเดียวกัน ต่อมาได้มีการแก้ไขโดยบัญญัติแยกไว้คนละมาตรา เป็นคนละฐานความผิด จึงเป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการแยกการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้เป็นคนละความผิดกัน ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองในวาระเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2524 จำเลยมีฝิ่นดิบ มูลฝิ่นและกล้องสูบฝิ่น ไว้ในความครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 2, 8, 11, 34, 53, 53 ทวิ,66, 69 ฯลฯ และริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง แต่ความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่นเป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน จำเลยมีไว้ในความครอบครองในวาระเดียวกัน เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงลงโทษในความผิดฐานมีฝิ่นไว้ในความครอบครอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนัก วางโทษจำคุก 6 เดือน ฐานมีกล้องสูบฝิ่นปรับ 200 บาท รวมจำคุก 6 เดือน และปรับ200 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 100 บาท ของกลางริบ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่นเป็นความผิดหลายกรรมต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษฐานมีมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมายตามมาตรา 53 ทวิ ด้วยโดยวางโทษจำคุก6 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน รวมกับโทษที่ศาลชั้นต้นลงไว้เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 100 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาว่า ความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่นเป็นความผิดกรรมเดียวกัน

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า เดิมพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 บัญญัติเกี่ยวกับการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในมาตราเดียวกัน คือมาตรา 53 ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามพระราชบัญญัติฝิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2502 บัญญัติแยกไว้คนละมาตราเป็นคนละฐานความผิด คือฐานมีฝิ่นผิดตามมาตรา 53 ฐานมีมูลฝิ่นผิดตามมาตรา 53 ทวิ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการแยกการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้คนละความผิดกัน ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองในวาระเดียวกัน แต่วัตถุของกลางเป็นคนละสิ่ง ซึ่งกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิดต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดพะเยา จำเลย - นายชาญเว่น แซ่ย่าง

ชื่อองค์คณะ ไพบูลย์ ไวกาสี ประสาท บุณยรังษี ชูเชิด รักตะบุตร์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE