ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ประกอบพิธีสมรสกับจำเลยและได้จดทะเบียนสมรสกับจำเลย ณ ที่ว่าการอำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี ทะเบียนเลขที่ 437/8527 ต่อมาไม่ถึงเดือน โจทก์ได้ทราบว่า จำเลยได้เคยจดทะเบียนสมรสกับนายไพฑูรย์มาก่อน ตามทะเบียนเลขที่ ก.1/1 ของสำนักงานทะเบียนอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ การจดทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นการผิดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1445(3) และ 1451 เป็นโมฆะตามมาตรา 1490 ขอให้ศาลพิพากษาว่าทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ

จำเลยให้การว่า การจดทะเบียนสมรสครั้งแรกระหว่างนายไพฑูรย์กับจำเลยนั้น จำเลยกระทำไปโดยถูกข่มขู่หลอกลวงและโดยความสำคัญผิดของจำเลยซึ่งไม่ทราบว่าเป็นทะเบียนสมรส ขณะจดทะเบียนสมรส จำเลยก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะ การสมรสระหว่างนายไพฑูรย์กับจำเลยจึงเป็นโมฆียะ ขณะนี้บิดาของจำเลยได้ฟ้องเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสระหว่างนายไพฑูรย์กับจำเลย และอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลแพ่ง ขอให้ยกฟ้อง

คู่ความรับกันว่า ขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับโจทก์นั้น จำเลยได้จดทะเบียนสมรสครั้งแรกอยู่กับนายไพฑูรย์และทะเบียนสมรสนั้นยังอยู่ ไม่ปรากฏว่าศาลได้เพิกถอน ฝ่ายจำเลยขอให้ศาลรอฟังผลของคดีแพ่งซึ่งบิดาจำเลยได้ฟ้องนายไพฑูรย์ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนสมรสดังกล่าวอยู่ หากคดีนั้นผลเป็นประการใด จำเลยขอถือตามผลของคดีนั้น ฝ่ายโจทก์ว่าไม่ควรต้องรอ

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ไม่จำต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป และวินิจฉัยว่า ขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับโจทก์นั้น จำเลยได้จดทะเบียนสมรสครั้งแรกอยู่กับนายไพฑูรย์ และทะเบียนสมรสนั้นไม่ปรากฏว่าศาลได้เพิกถอน จึงถือว่าขณะโจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสนั้นจำเลยยังเป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น เป็นการผิดบทบัญญัติมาตรา 1445(3)และถือว่าเป็นโมฆะตามมาตรา 1490 พิพากษาว่า ทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยจะอ้างในคำให้การต่อสู้คดีว่า การสมรสระหว่างจำเลยกับนายไพฑูรย์เป็นโมฆะหรือโมฆียะไม่ได้ นอกจากศาลจะพิพากษาว่าเป็นเช่นนั้น โดยเหตุนี้ ขณะใดที่ศาลยังไม่ได้พิพากษาว่าการจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายไพฑูรย์เป็นโมฆะหรือโมฆียะแล้วก็ต้องถือว่า เวลาจำเลยจดทะเบียนสมรสกับโจทก์คดีนี้ จำเลยยังเป็นคู่สมรสของชายอื่นอยู่ ฉะนั้น การจดทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงเป็นโมฆะ ฯลฯ

ฎีกาจำเลยขอให้รอคดีนี้ไว้ก่อนหรือฟังผลของคดีแพ่งซึ่งบิดาจำเลยกำลังฟ้องไว้นั้นตามบทบัญญัติมาตรา 1496 กล่าวว่า เมื่อมีการเพิกถอนการสมรส ให้นำบทบัญญัติอันว่าด้วยการขาดจากการสมรสโดยการหย่าตามคำพิพากษาของศาลมาบังคับโดยอนุโลม ส่วนการหย่าตามคำพิพากษาของศาลดังกล่าวนี้ จะมีผลแต่เวลาที่คำพิพากษาถึงที่สุดตามมาตรา 1511 ฉะนั้น หากคดีแพ่งดังกล่าวศาลพิพากษาให้เพิกถอนการสมรสระหว่างจำเลยกับนายไพฑูรย์แล้ว ก็มีผลตั้งแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งเป็นการภายหลังการจดทะเบียนสมรสในคดีนี้ อันเป็นโมฆะไปก่อนแล้วนั่นเอง การเพิกถอนการสมรสระหว่างจำเลยกับนายไพฑูรย์หามีผลมาแต่แรกเริ่มดังที่จำเลยฎีกาไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th