ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป มีกำหนดระยะเวลาจ้าง 2 ปี ต่อมาจำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์ และให้โจทก์ออกจากงานโดยโจทก์ไม่ได้กระทำผิด ซึ่งตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์จำเลย โจทก์มีสิทธิได้รับค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับชั้นประหยัด กรุงเทพ-พอร์ทแลนด์ออรีกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และค่าตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวกรุงเทพ-พอร์ทแลนด์ออรีกอน ประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมจัดการส่งทรัพย์สินส่วนตัวของโจทก์ เมื่อโจทก์พ้นจากการเป็นลูกจ้างหลังจากทำงานเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ-พอร์ทแลนด์รวม 341,250 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามกำหนดระยะเวลาจ้าง 2 ปี ซึ่งจำเลยได้แจ้งให้โจทก์ทราบล่วงหน้าแล้ว กับโจทก์ปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในค่าชดเชย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 331,250 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า "จำเลยเลิกจ้างลูกจ้างโดยทำเป็นหนังสือและระบุเหตุเลิกจ้างไว้ชัดแจ้ง แสดงว่าจำเลยประสงค์จะถือเอาเหตุนั้นเป็นข้ออ้างในการเลิกจ้างหาได้ถือเอาเหตุอื่นด้วยไม่ ดังนั้น เมื่อจำเลยถูกโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างฟ้องร้องต่อศาล จำเลยจะยกเอาเหตุเลิกจ้างอื่นนอกเหนือจากหนังสือเลิกจ้างเป็นข้อต่อสู้หาได้ไม่ ตามหนังสือเลิกจ้างเอกสารหมาย จ.ล.3 อ้างเหตุเลิกจ้างไว้เพียงว่าเป็นการสิ้นสุดสัญญาจ้าง ฉะนั้น จำเลยจะให้การต่อสู้ว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงซึ่งเป็นการยกเหตุอื่นนอกเหนือจากหนังสือเลิกจ้างขึ้นเป็นข้อต่อสู้หาได้ไม่ เหตุเลิกจ้างตามที่จำเลยอ้างในหนังสือเลิกจ้างนั้น ไม่ต้องด้วยข้อ 47 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานจำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยแม้ศาลแรงงานกลางจะมิได้กำหนดเหตุเลิกจ้างดังกล่าวเป็นประเด็นข้อพิพาท ก็มิได้ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

จำเลยอุทธรณ์ในข้อต่อไปว่า ศาลแรงงานกลางงดสืบพยานคู่ความโดยมิได้สอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏถึงลักษณะของงานที่ว่าจ้างว่าต้องตามที่ระบุไว้ในข้อ 46 วรรคท้าย แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน หรือไม่ เห็นว่าเมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในข้อดังกล่าวไว้ การที่ศาลแรงงานกลางงดสืบพยานคู่ความโดยมิได้สอบข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นดุลพินิจของศาลแรงงานกลางซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามมาตรา 54 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th