ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจทำไม้โดยตัดฟันและนำเคลื่อนที่ซึ่งไม้เต็งจำนวน 2 ต้น เนื้อไม้ 1.20 ลูกบาศก์เมตร อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 และเป็นไม้ที่ไม่มีรอยตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ประทับ โดยมิได้รับอนุญาตและไม่ได้รับสัมปทาน และไม่มีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วยเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยถ่านไม้ซึ่งจำเลยได้เผาเป็นถ่าน 4 กระสอบ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11, 39, 71, 73, 74 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 13, 17 ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า จำเลยตัดฟันต้นไม้ในป่า จึงขาดสารสำคัญที่จะเป็นความผิด ส่วนข้อหานำไม้เคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามฟ้องโจทก์ไม่ได้ความตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 38 พิพากษายกฟ้อง คืนของกลาง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า "ฯลฯ จำเลยนี้ได้บังอาจทำไม้โดยตัดฟัน ฯลฯ ไม้เต็ง ฯลฯ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 ฯลฯ โดยมิได้รับอนุญาต ฯลฯ" ถือได้ว่าครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)แล้ว เพราะคำว่า "ทำไม้" ได้นิยามไว้ในมาตรา 4(5) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 แล้วว่า หมายความว่าตัดฟัน ฯลฯ ไม้ในป่า ทั้งโจทก์บรรยายประกอบคำว่า "ทำไม้" ด้วยว่า "โดยตัดฟันไม้เต็งอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505" ซึ่งจะเห็นได้อีกชั้นหนึ่งตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484แก้ไขโดยพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 ว่าไม้ที่โจทก์ฟ้องเป็นไม้ในป่า เพราะไม้ที่ไม่ใช่ไม้สักและไม้ยางนั้น พระราชกฤษฎีกาจะกำหนดเป็นไม้หวงห้ามได้ต่อเมื่อเป็นไม้ในป่า ฟ้องโจทก์จึงได้ความแล้วว่าจำเลยตัดฟันไม้เต็งในป่าโจทก์หาจำต้องบรรยายโดยใช้คำว่า "ในป่า" ประกอบคำว่า "ทำไม้" หรือ "ตัดฟันไม้" ด้วยไม่

ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำไม้รายนี้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางกำกับ เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 39 นั้นเห็นว่า มาตรา 39 บังคับเฉพาะการนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังที่ได้นำไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต หรือการนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกตามความในมาตรา 38 เท่านั้น ส่วนการนำไม้หวงห้ามที่ทำออกโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่นไม้รายนี้เคลื่อนที่ หาเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39 ไม่ ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1018/2496 และที่ 341/2498

พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 11 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 และมาตรา 73 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 ปรับ 300 บาท ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ปรับ 150 บาท ริบของกลาง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th