ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า 26 ตุลาคม 2505 เวลากลางวัน จำเลยควบคุมเรือยนต์และเครื่องจักรเรือยนต์โดยสารสาธารณะรับส่งผู้โดยสารและสินค้าตามชายฝั่งทะเลของอ่าวตะโละกาโปร์ โดยมิได้รับประกาศนียบัตร ด้วยความประมาทเป็นเหตุให้เรือยนต์ไปชนกับเสาสะพานบ้านปาเระโดยแรง หลังคาเรือหักลงมาทับนางมีเนาะได้รับอันตรายสาหัสกระดูกปลายแขนซ้ายหักและทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน เหตุเกิดตำบลบาราโหม อำเภอเมืองปัตตานีจังหวัดปัตตานี ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 มาตรา 277, 278, 282 และที่แก้ไข พ.ศ. 2477 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300, 91

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลจังหวัดปัตตานีฟังว่าจำเลยไม่ได้ขับเรือ แต่นายโน๊ะเจ้าของเรือเป็นผู้ขับวันเกิดเหตุมีพายุใต้ฝุ่นพัดเชือกผูกเรือขาดไปกระแทกเสาสะพาน เป็นเหตุสุดวิสัย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเป็นผู้ขับเรือเอง เรือชนสะพานเพราะความประมาทของจำเลย ผู้เสียหายไม่ได้รับอันตรายสาหัส แต่ลงโทษตามมาตรา 390 ได้ ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำไทยเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน โจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหายเมื่ออัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์ โจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจอุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามฟ้องเดิมได้พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 จำคุก 1 เดือน

โจทก์ร่วมฎีกาว่าได้รับอันตรายสาหัส จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ใช่ผู้ขับเรือและเป็นเรื่องเหตุสุดวิสัย

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นผู้ขับเรือ และวันเกิดเหตุไม่มีพายุเรือมิได้จอดและผูกเชือก เหตุเกิดเพราะเมื่อเรือจะถึงท่าจำเลยมิได้เบาเครื่อง เรือจึงไปชนเสาสะพานหลังคาเรือซึ่งบรรทุกของอยู่เต็มพังลงมาทับผู้เสียหาย เพราะความประมาทของจำเลยจริงดังฟ้อง

ส่วนที่โจทก์ร่วมว่าได้รับอันตรายสาหัสนั้น ปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลหลังเกิดเหตุ 13 วัน ว่าผู้เสียหายกระดูกปลายแขนซ้ายหัก มีแผลเปื่อยอยู่ตรงบริเวณกระดูกหัก แพทย์ลงความเห็นว่าถ้ารักษาตามแผนปัจจุบันประมาณ 30 วันหาย ศาลฎีกาเห็นว่า ลำพังแขนหักยังไม่เป็นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ตามฟ้องโจทก์ยกเหตุเฉพาะในข้อทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยทุกขเวทนาเกินกว่า20 วัน แต่โจทก์ก็มิได้นำสืบให้ปรากฏว่าผู้เสียหายต้องทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยทุกขเวทนากล้าเกิน 20 วันอย่างไร จึงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ไม่ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th