ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ฯลฯ จำคุกคนละ 9 เดือน ปรับคนละ4,000 บาท ริบไม้สักของกลาง รถยนต์บรรทุก และรำข้าวปนแกลบจำนวน 35กระสอบ คดีถึงที่สุด ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 3 ให้โจทก์ไปฟ้องเป็นคดีใหม่

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่ารถยนต์บรรทุกของกลางเป็นของผู้ร้อง ให้จำเลยที่ 3เช่าซื้อไป ยังชำระราคาค่าเช่าซื้อไม่ครบ ผู้ร้องมิได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดของจำเลยด้วย ขอให้คืนรถยนต์คันดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง

โจทก์คัดค้านว่ารถยนต์ไม่ใช่เป็นของผู้ร้อง ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลาง ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนเกิน 1 ปี ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้และขอให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินซึ่งรวมถึงรถยนต์ของกลางด้วย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นจึงสั่งเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2517 ให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 3 โดยให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ และในวันเดียวกันนั้นเองศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามฟ้องลงโทษจำคุกและปรับ กับให้ริบรถยนต์บรรทุกของกลางนี้ด้วย คดีถึงที่สุดโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ ต่อมาวันที่ 11 กรกฎาคม 2517 โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่เรื่องความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 3 มีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษจำคุกมีกำหนด 9 เดือน จำเลยที่ 3อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2519

คดีมีปัญหาว่า คำว่า "วันคำพิพากษาถึงที่สุด" ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 หมายถึงคำพิพากษาคดีเดิมของศาลชั้นต้น หรือหมายถึงคดีของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นคดีที่ศาลสั่งให้โจทก์ไปยื่นฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ต่างหากอีกคดีหนึ่ง ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวนี้ว่าการขอคืนทรัพย์ของกลาง ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ซึ่งเจ้าของทรัพย์ที่มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดย่อมมีสิทธิขอคืนต่อศาลภายใน 1 ปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น คำว่า "วันคำพิพากษาถึงที่สุด" ย่อมหมายถึงคำพิพากษาในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ ตามข้อเท็จจริงในคดีได้ความว่าคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 340/2517 กับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 568/2517ของศาลชั้นต้นเป็นกรณีเดียวกัน แต่ฟ้องคดีกันคนละคราว รายการทรัพย์สินที่จับได้เป็นรายเดียวกัน ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมทั้งรถยนต์บรรทุกของกลางจึงเป็นของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบไปแล้วในคดีก่อนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 340/2517 ของศาลชั้นต้น ที่โจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น โจทก์ได้บรรยายฟ้องกล่าวถึงทรัพย์สินรวมถึงรถยนต์บรรทุกของกลางมาด้วยอีกก็เพื่อให้ฟ้องบริบูรณ์เท่านั้น หาได้นำมาอยู่ในอำนาจศาลในคดีหลังแต่ประการใดไม่ ทั้งโจทก์ก็มิได้มีคำขออย่างหนึ่งอย่างใดมาด้วยยิ่งกว่านั้นโจทก์ยังได้กล่าวในตอนท้ายฟ้องไว้ด้วยว่าของกลางศาลมีคำสั่งให้ริบแล้ว ทรัพย์สินรวมทั้งรถยนต์บรรทุกของกลางจึงมิใช่ของกลางในคดีหลัง คือคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 568/2517 ของศาลชั้นต้น ที่ศาลจะพึงวินิจฉัยสั่งด้วย ฉะนั้น ที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนรถยนต์บรรทุกของกลางในวันที่ 21 มิถุนายน 2519 จึงเป็นการยื่นภายหลังวันที่ 23 กรกฎาคม 2517 ซึ่งเป็นวันที่คำพิพากษาคดีนี้ถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 36 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th