ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินมีโฉนดพร้อมด้วยบ้านให้แก่โจทก์ตกลงชำระเงินและกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์กันแล้ว โจทก์นำเงินไปชำระให้จำเลยโดยให้จำเลยไปโอนที่ดินและบ้านให้โจทก์ แต่จำเลยบิดพลิ้วไม่ยอมรับเงินและไม่ยอมโอน ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยยอมรับเงิน และโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านให้โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา โดยไม่นำเงินมาชำระแก่จำเลยจำเลยจึงต้องฟ้องขับไล่ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม และเป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 157/2522 ของศาลชั้นต้น ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว มีคำสั่งให้งดชี้สองสถานและนัดฟังคำพิพากษา

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณา และพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีก่อนโจทก์ (จำเลยคดีนี้) ฟ้องขับไล่จำเลย (โจทก์คดีนี้)ออกจากบ้านและเรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าบ้านพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลย (โจทก์ในคดีนี้) ให้การต่อสู้ว่า โจทก์ (จำเลยในคดีนี้) มิได้เป็นเจ้าของบ้านตามฟ้อง จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหาย ประเด็นแห่งคดีจึงมีว่า บ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ (จำเลยคดีนี้) หรือไม่ และค่าเสียหายมีจำนวนเท่าใดส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อขายที่ดินและบ้านพิพาททำให้โจทก์เสียหาย จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญา โจทก์เองเป็นฝ่ายปฏิบัติผิดสัญญา จึงเรียกค่าเสียหายไม่ได้ ประเด็นแห่งคดีจึงมีฝ่ายใดเป็นฝ่ายปฏิบัติผิดสัญญาจะซื้อขาย และโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายหรือไม่ จำนวนเท่าใดดังนี้จะเห็นได้ว่าเป็นคนละประเด็นกัน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

จำเลยฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งให้งดชี้สองสถานโดยไม่อุทธรณ์คำพิพากษา ถือว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นยังผูกพันโจทก์อยู่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์อุทธรณ์ว่าฟ้องโจทก์คดีนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำขอให้ยกคำสั่งงดชี้สองสถานแล้วพิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ อันเป็นการอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยปฏิเสธไม่สืบพยานตามที่โจทก์ร้องขอ ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจพิพากษาคำสั่งหรือคำพิพากษายกคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2) กรณีเช่นนี้โจทก์หาจำต้องอุทธรณ์คำพิพากษาอีกไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ไม่ผูกพันโจทก์อีก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th