คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 231 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483
ในคดีล้มละลายเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ย่อมเป็นอำนาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยต่อไปตามวิธีการที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะใน พระราชบัญญัติล้มละลาย จำเลยจะร้องขอทุเลาการบังคับตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ดังเช่นคดีแพ่งธรรมดาไม่ได้
ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้อง จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ในปัญหาที่ว่าจำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในคดีล้มละลายได้หรือไม่นั้น เห็นว่าในคดีล้มละลาย เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ย่อมเป็นอำนาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยต่อไปตามวิธีการที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะในพระราชบัญญัติล้มละลายจำเลยจะร้องขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 ดังเช่นคดีแพ่งธรรมดาไม่ได้ ปัญหาเดียวกันนี้ ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เคยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วตามคำสั่งคำร้องที่ 112/2518ในคดีระหว่างธนาคารนครหลวงไทย จำกัด โจทก์ นายซิงฮั้ว แซ่ตั้ง จำเลย"
พิพากษา
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด จำเลย - นายถวัลย์ มนูพันธ์
ชื่อองค์คณะ สุทิน เลิศวิรุฬห์ ผสม จิตรชุ่ม พยนต์ ยาวะประภาษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan