สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069 - 1070/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1299, 1382, 1599, 1600

โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินมาโดยการรับมรดกต้องรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ โจทก์จึงไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้ได้กรรมสิทธิ์มาโดยเสียค่าตอบแทนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 จำเลยจึงยกกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทอันได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ แม้จำเลยจะยังมิได้จดทะเบียนการได้มาก็ตาม

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองสำนวนว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 2226 ตำบลบางแก้วอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นของนายดี นายดีนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองไว้กับนางเหลี่ยมเมื่อ 15 มกราคม 2473 ต่อมานายดีถึงแก่กรรม โจทก์ซึ่งเป็นบุตรนายดีจดทะเบียนไถ่จำนองลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เมื่อ 26 มีนาคม 2518 ราวเดือนเศษมานี้โจทก์มีความประสงค์จะแบ่งแยกที่ดินแปลงนี้เพื่อขาย และให้กับผู้มีชื่อ จำเลยทั้งสองไม่ยอมให้รังวัดแบ่งแยก อ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินที่กล่าว และห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป

จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า หากโฉนดที่ดินแปลงพิพาทเป็นของนายดีนายดีได้สละทิ้งไปเมื่อ 40 ปีเศษมาแล้ว ที่ดินกลับเป็นที่รกร้างว่างเปล่าเมื่อราว 20 ปีเศษมานี้ นายหลิมจำเลยกับนายหลายได้เข้าจับจองที่ป่า ทำเป็นที่มีประโยชน์ของนายหลิมจำเลยเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ของนายหลายประมาณ 3 ไร่ เมื่อราว 10 ปีเศษมานี้นายหลายยกที่ส่วนของตนให้นายเอิ๊ดจำเลย จำเลยทั้งสองครอบครองที่พิพาทโดยความสงบเปิดเผยเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้ว กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทจึงเป็นของจำเลยทั้งสองโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้โจทก์จะไถ่ถอนจำนอง โอนทะเบียนรับมรดกลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โจทก์ก็ทราบดีว่าจำเลยทั้งสองได้ครอบครองที่พิพาทมาจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ โจทก์รับมรดกที่พิพาทจากบิดา ต้องรับโอนทั้งสิทธิหน้าที่ของเจ้ามรดก โจทก์จึงไม่ใช่บุคคลภายนอก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 จำเลยยกกรรมสิทธิ์ที่ได้มาขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองครอบครองปรปักษ์ที่พิพาทแต่ละแปลงเกินกว่า 10 ปีแล้ว จำเลยทั้งสองจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ตนครอบครอง

ปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทของจำเลยซึ่งยังมิได้จดทะเบียนการได้มาจะยกเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ไถ่จำนองและได้จดทะเบียนกรรมสิทธิ์แล้วได้หรือไม่นั้น เห็นว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 2226 โดยการรับมรดกโจทก์จึงต้องรับไปทั้งสิทธิหน้าที่ และความรับผิดต่าง ๆ จึงไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้ได้กรรมสิทธิ์มาโดยเสียค่าตอบแทนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 จำเลยทั้งสองจึงยกกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทอันได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้โจทก์ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายหวน ประทีป จำเลย - นายหลิบ นาคงาม กับพวกรวม 2 สำนวน

ชื่อองค์คณะ สุวัฒน์ รัตรสาร จันทร์ ระรวยทรง สุไพศาล วิบุลศิลป์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE