สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2567

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ครพ. 1072/2567

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 295

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ซึ่งเป็นคำร้องที่ยื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 295 วรรคสอง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องวางเงิน 1,000,000 บาท เพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนซึ่งถือเป็นการสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 295 วรรคห้า เมื่อผู้ร้องไม่วางเงินประกันตามคำสั่งศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคำร้องออกจากสารบบความ อันถือได้ว่าเป็นการยกคำร้อง ซึ่งมาตรา 295 วรรคห้าตอนท้าย ได้บัญญัติว่าคำสั่งของศาลที่ออกตามความในวรรคนี้ให้เป็นที่สุด ดังนั้น ผู้ร้องจึงไม่อาจขออนุญาตฎีกาได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยทั้งสี่ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ขอบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองเป็นที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 791, 792 และ 1149 ออกขายทอดตลาด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 บริษัทบริหารสินทรัพย์ ส. ยื่นคำร้องขอสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาวันที่ 5 มกราคม 2560 ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้ในราคา 19,620,000 บาท โดยผู้ร้องได้วางเงินมัดจำไว้ 2,500,000 บาท และสัญญาว่าจะนำเงินที่ค้างชำระ 17,120,000 บาท มาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 15 วัน และขอขยายระยะเวลาชำระเงินครั้งที่ 1 เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอนุญาต ระหว่างนั้นมีนายสมจิตร ร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาด ผู้ร้องขอรับเงินมัดจำคืนคงเหลือไว้เพียงร้อยละ 55 ของราคาที่ซื้อทรัพย์ได้ และขอขยายเวลาชำระเงินครั้งที่ 2 ถึงคดีถึงที่สุดเมื่อคดีถึงที่สุด ผู้ร้องได้ขอขยายเวลาชำระเงินส่วนที่เหลือครั้งที่ 3 เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอนุญาตถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ต่อมาวันที่ 23 กันยายน 2564 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาด อ้างเหตุว่ารังวัดที่ดินแล้วเนื้อที่ดินขาดหายไปมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ของเนื้อที่ดินตามหนังสือประโยชน์ (น.ส.3 ก.) และขอรับเงินมัดจำคืน

โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 โจทก์ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องเพื่อประวิงคดีขอให้วางเงินหรือหาประกันต่อศาล

ศาลชั้นต้นให้ผู้ร้องวางเงินประกันความเสียหายเป็นเงิน 1,000,000 บาท ภายใน 15 วัน หากไม่วางภายในกำหนดให้ถือว่าทิ้งคำร้อง และนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 13.30 นาฬิกา

วันที่ 29 มีนาคม 2565 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอขยายเวลาวางเงินประกันไปเป็นเวลา 30 วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอนุญาตไปจนถึงวันนัดวันที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 14 นาฬิกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องไม่ร้องขอเลื่อนคดีและไม่ได้วางเงินประกันความเสียหาย ถือว่าผู้ร้องทิ้งคำร้อง จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้ร้องยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาพร้อมฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2566

ศาลฎีกาแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกาในศาลฎีกาวินิจฉันว่า คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ซึ่งเป็นคำร้องที่ยื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 วรรคสอง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องวางเงิน 1,000,000 บาท เพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนซึ่งถือเป็นการสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 วรรคห้า เมื่อผู้ร้องไม่วางเงินประกันตามคำสั่งศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคำร้องออกจากสารบบความ อันถือได้ว่าเป็นการยกคำร้อง ซึ่งมาตรา 295 วรรคห้าตอนท้าย ได้บัญญัติว่าคำสั่งของศาลที่ออกตามความในวรรคนี้ให้เป็นที่สุด ดังนั้น ผู้ร้องจึงไม่อาจขออนุญาตฎีกาได้

จึงมีคำสั่งยกคำร้อง และไม่รับฎีกาของผู้ร้อง ผู้ร้องมิได้เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาจึงไม่มีค่าขึ้นศาลที่จะคืนให้ ค่าฤชาธรรมเนียมอื่นนอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ครพ.1593/2566

แหล่งที่มา หนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE