ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการสละมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ 12052 ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ระหว่างนายสายัณห์กับจำเลยที่ 2 ให้จำเลยทั้งสองในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสายัณห์ และจำเลยที่ 2 ในฐานะส่วนตัวดำเนินการภายใน 7 วัน นับแต่วันพิพากษา หากจำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน

จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมการสละมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ 12052 ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร พร้อมสิ่งปลูกสร้างระหว่างนายสายัณห์กับจำเลยที่ 2 ให้จำเลยทั้งสองในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสายัณห์และจำเลยที่ 2 ในฐานะส่วนตัวดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนโอนมรดกในส่วนดังกล่าว หากจำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน กับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ในศาลชั้นต้นให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์และจำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามที่โจทก์และจำเลยทั้งสองไม่ฎีกาโต้เถียงกันว่า จำเลยทั้งสองเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสายัณห์และนางโสภา นายสายัณห์กู้เงินจากโจทก์800,000 บาท แล้วผิดนัด โจทก์ฟ้องนายสายัณห์ให้ชำระหนี้ ศาลพิพากษาตามยอมให้นายสายัณห์ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ย ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 928/2548 ของศาลชั้นต้น แต่นายสายัณห์ไม่ชำระ โจทก์บังคับคดียึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้ นางโสภาถึงแก่ความตายโดยมีทรัพย์มรดกเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 12052 ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งตกได้แก่นายสายัณห์และจำเลยทั้งสอง ต่อมาวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 จำเลยที่ 2 ยื่นคำขอรับโอนมรดกที่ดินดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานที่ดิน โดยนายสายัณห์และจำเลยที่ 1 ให้ถ้อยคำว่าไม่ขอรับมรดกที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว และยินยอมให้จำเลยที่ 2 รับมรดกที่ดินแปลงดังกล่าวได้ เจ้าพนักงานที่ดินจึงจดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 ต่อมานายสายัณห์ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2555 และจำเลยที่ 2 จดทะเบียนจำนองที่ดินดังกล่าวแก่นายสุธรรม เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ว่า กรณีมีเหตุเพิกถอนนิติกรรมสละมรดกที่ดินของนายสายัณห์หรือไม่ เห็นว่า ในการที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำขอจดทะเบียนรับโอนที่ดินมรดก นายสายัณห์และจำเลยที่ 1 ได้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่าไม่ขอรับมรดกที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และยินยอมให้จำเลยที่ 2 ลงชื่อรับมรดกที่ดินได้ ตามสำเนาบันทึกถ้อยคำทายาทผู้มีความประสงค์ไม่ขอรับมรดก อันมีความหมายว่านายสายัณห์และจำเลยที่ 1 สละมรดกที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 2 เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารมหาชนที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้น ซึ่งกฎหมายสันนิษฐานว่าแท้จริงและถูกต้อง จำเลยทั้งสองคงให้การต่อสู้ว่านายสายัณห์และจำเลยที่ 1 ไม่ได้สละมรดก แต่จำเลยทั้งสองและนายสายัณห์ประมูลซื้อที่ดินมรดกในระหว่างทายาท โดยจำเลยที่ 2 ประมูลได้ในราคา 300,000 บาท ซึ่งได้ชำระเงินให้แก่นายสายัณห์และจำเลยที่ 1 แล้ว เหตุที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนโอนมรดกโดยนายสายัณห์และจำเลยที่ 1 สละมรดกเนื่องจากทำตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานที่ดินแต่จำเลยทั้งสองมิได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบต่อสู้ตามข้ออ้าง และไม่ได้นำสืบหักล้างบันทึกถ้อยคำทายาทผู้มีความประสงค์ไม่ขอรับมรดก ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามพยานหลักฐานโจทก์ว่านายสายัณห์สละมรดกที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2 โดยเสน่หา เมื่อนายสายัณห์สละมรดกในขณะที่เป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาโดยข้อเท็จจริงได้ความว่า นายสายัณห์ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่โจทก์จะบังคับคดีได้ จึงเป็นการสละมรดกโดยรู้อยู่ว่าจะทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ กรณีมีเหตุเพิกถอนนิติกรรมสละมรดกที่ดินในส่วนของนายสายัณห์ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 หรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการสละมรดกที่ดินระหว่างนายสายัณห์กับจำเลยที่ 2 อันหมายถึงขอให้เพิกถอนการสละมรดกที่ดินเฉพาะส่วนของนายสายัณห์ โดยอ้างว่านายสายัณห์สละมรดกที่ดินโดยรู้อยู่ว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของตนเสียเปรียบ การกระทำของนายสายัณห์จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ เมื่อนายสายัณห์ถึงแก่ความตาย โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่ง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ในฐานะทายาทโดยธรรม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1737 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น

พิพากษาแก้ ให้บังคับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.1483/2559

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th