ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๒๒ จำเลยกับพวกสมคบกันลักโคไป ๑๒ ตัว หรือต่อมาวันที่ ๒๓ จำเลยกับพวกสมคบกันรับโค ๑๒ ตัวซึ่งถูกลักไปไว้แล้วพาโคไปโดยรู้ว่าเป็นของได้มาโดยการกระทำผิดขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องเพราะขาดพะยานหลักฐาน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าในเรื่องหาว่าจำเลยลักทรัพย์โจทก์ไม่มีหลักฐานเพียงพอส่วนข้อหาเรื่องรับของโจรนั้นเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ชัดแจ้งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหายากขัดต่อ ม.๑๕๘ (๕) แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญาและนัยฎีกาที่ ๗๒๒/๒๗๘๑ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินต้องกันมาว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ โจทก์จึงมีสิทธิฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งเห็นว่าตามฟ้องโจทก์ตอนแรกกล่าวชัดว่าจำเลยกับพวกลักทรัพย์แล้วกลับกล่าวหาอีกว่าจำเลยรับของโจรดั่งนี้ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ยากดั่งนัยคำพิพากษาฎีกาที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นกล่าว พิพากษายืนตามให้ยกฎีกาโจทก์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









