ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 มาตรา 4, 20, 62 ทวิ, 69 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 105 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515 ข้อ 2, 4, 5 ริบของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 20, 62 ทวิ, 69ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 105 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2515ข้อ 2, 4, 5 จำเลยทั้งสองอายุ 20 ปี รู้ผิดชอบดีแล้วไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ ให้จำคุกคนละ 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี ของกลางริบ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 เดือนและปรับ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 79กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 3 เดือน และปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษจำเลยที่ 1 ไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน จำเลยที่ 2รับสารภาพเช่นเดียวกัน ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 3 เดือน ไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุก จึงไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "…คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต คำขอท้ายฟ้องระบุอ้างพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 มาตรา 20 ซึ่งเป็นบทมาตราความผิด และมาตรา 62 ทวิซึ่งเป็นบทกำหนดโทษและอ้างประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 105 ข้อ 4ซึ่งแก้ไขมาตรา 62 ทวิ แต่ในขณะที่จำเลยกระทำผิด ได้มีพระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528 ออกใช้บังคับแล้วโดยแก้ไขมาตรา62 ทวิ แม้โจทก์จะมิได้อ้างพระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2528 แต่ได้อ้างกฎหมายเดิมซึ่งมีความผิดอยู่ ถือว่าฟ้องโจทก์ได้อ้างมาตราที่ลงโทษจำเลยมาสมบูรณ์แล้ว ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ ควรปรับบทลงโทษที่แก้ไขใหม่ให้ถูกต้องมีผลถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่มีฝ่ายใดฎีกาด้วย แต่โทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1 คงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์"

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองผิดตามพระราชบัญญัติการประมงพ.ศ. 2490 มาตรา 20, 62 ทวิ พระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2528 มาตรา 10 โทษจำเลยที่ 1 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาทจำเลยที่ 2 รับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือนและปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกจำเลยที่ 2 ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th