ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่นายพยุงกับพวกซึ่งกำลังกระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตัวนายอนันต์เพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่และทำให้นายอนันต์ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยขณะที่นายพยุงกับพวกกำลังกระทำความผิดดังกล่าวอยู่ จำเลยได้รับเป็นผู้ช่วยเหลือในการกระทำความผิด โดยเป็นหูเป็นตาสอดส่องความเคลื่อนไหวของเจ้าพนักงานตำรวจแล้วแจ้งให้นายพยุงกับพวกทราบทุกระยะ และขณะที่จำเลยกำลังกระทำความผิดดังกล่าวอยู่ จำเลยทราบว่าเจ้าพนักงานตำรวจกำลังเข้าล้อมจับนายพยุงกับพวกในความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่ จำเลยได้แจ้งให้นายพยุงกับพวกทราบโดยตะโกนบอกว่าตำรวจมาสองคันรถ เป็นการช่วยเหลือนายพยุงกับพวกซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษและเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 313, 310, 86, 189 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 11 พ.ศ. 2514

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าการกระทำของจำเลยยังไม่เข้าข่ายความผิดฐานสนับสนุนผู้อื่นให้ทำความผิดตามมาตรา 86 แต่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ยกข้อหาอื่น

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา ศาลสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยเป็นการสนับสนุนผู้อื่นในการกระทำผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่หรือไม่

ศาลฎีกาเห็นว่า ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า นายพยุงกับพวกได้จับตัวนายอนันต์ผู้เสียหายไปกักขังไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ เจ้าพนักงานตำรวจได้ติดตามไปช่วยเหลือผู้เสียหายและจับกุมคนร้ายที่หมู่ที่ 5 ตำบลดงละคร ระหว่างที่ตำรวจทั้งนอกและในเครื่องแบบกำลังค้นหาตัวผู้เสียหายอยู่นั้น จำเลยได้ขี่รถจักรยานไปที่บ้านร้าง แล้วตะโกนบอกกับสิบตำรวจโทนิโชว์ซึ่งไม่ได้แต่งเครื่องแบบว่ามีตำรวจมา 2 คันรถ โดยจำเลยเข้าใจว่าสิบตำรวจโทนิโชว์เป็นคนร้าย จำเลยมิใช่ผู้ทำหน้าที่สอดส่องความเคลื่อนไหวของเจ้าพนักงานตำรวจแล้วแจ้งให้คนร้ายทราบ แล้ววินิจฉัยว่า จำเลยมิได้ทำหน้าที่สอดส่องความเคลื่อนไหวของเจ้าพนักงานตำรวจแล้วแจ้งแก่คนร้ายที่จำเลยตะโกนบอกกับสิบตำรวจโทนิโชว์ซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นคนร้ายว่ามีตำรวจมา2 คันรถเช่นนี้ถือไม่ได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนร้ายกระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายเพื่อได้มาซึ่งค่าไถ่ อันจะเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th