ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ยืมจำนวน 14,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้กู้ยืมเงินโจทก์จำนวน 14,000 บาทแต่เป็นหนี้โจทก์ในต้นเงินเพียง 3,532.25 บาท ต่อมาจำเลยไม่มีเงินชำระโจทก์ให้จำเลยลงลายมือชื่อไว้ในแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้เงินโดยยังไม่ได้กรอกข้อความ โจทก์เก็บหนังสือสัญญากู้เงินไว้ ต่อมาโจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระเงิน 3,532.25 บาท โจทก์ได้กรอกจำนวนเงินลงในสัญญากู้ดังกล่าวเกินกว่าหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่จริงจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

ศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 3,532.25 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย

โจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่มีสิทธินำสืบว่านายดาบตำรวจกิตติ มีพงษ์ พยานโจทก์ไม่รู้เห็นการทำหนังสือสัญญากู้เงินตามเอกสารหมาย จ.2 เพราะจำเลยไม่ได้ถามค้านพยานโจทก์ไว้ก่อน ศาลไม่อาจรับฟังพยานจำเลยที่นำสืบเช่นนั้นเพราะเป็นการฟังพยานนอกคำคู่ความและนอกประเด็นนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยได้ให้การต่อสู้คดีว่า ขณะโจทก์ให้จำเลยลงลายมือชื่อในแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้ท้ายฟ้องหมายเลข 1 นั้น แบบพิมพ์ดังกล่าวยังไม่ได้กรอกข้อความ จำเลยจึงมีสิทธินำสืบว่าพยานในแบบพิมพ์ดังกล่าวยังไม่มีกล่าวคือ นายดาบตำรวจกิตติ มีพงษ์ ที่ลงลายมือชื่อเป็นพยานในแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้เงินตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 หรือเอกสารหมาย จ.2 ยังไม่ได้ลงลายมือชื่อ และเป็นพยานที่ไม่รู้เห็นเหตุการณ์ ประกอบกับคดีนี้ศาลกำหนดให้จำเลยนำสืบก่อน จำเลยจึงไม่อาจถามค้านพยานโจทก์ไว้ก่อนได้ การนำสืบของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นการนำสืบนอกคำคู่ความและนอกประเด็น…

โจทก์ฎีกาต่อมาว่า โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์จำนวน14,000 บาท ตามเอกสารหมาย จ.2 มิได้ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามเอกสารหมาย จ.1 การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้แก่โจทก์จำนวน 3,532.25 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2528 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จึงเป็นการพิพากษานอกฟ้องนอกประเด็นนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปจำนวน 14,000 บาท ปรากฏตามหนังสือสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.2 จำเลยได้ให้การต่อสู้ว่า ความจริงจำเลยกู้เงินโจทก์ไปเพียง 3,532.25 บาท การที่ศาลล่างทั้งสองฟังพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ จึงพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้โจทก์เพียง 3,532.25 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามที่จำเลยให้การต่อสู้นั้น หาได้เป็นการพิพากษานอกฟ้องนอกประเด็นไม่…"

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th