ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60, และ 268 ให้จำคุก 2 ปี จำเลยมีอายุ 17 ปีเศษลดโทษตามมาตรา 58 ทวิ กึ่งหนึ่ง คงเหลือ 1 ปี แต่ให้รอการลงอาญาไว้ภายใน 5 ปี ตามมาตรา 41
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้เปลี่ยนโทษจำคุก 1 ปี เป็นส่งตัวจำเลยไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมมีกำหนด 1 ปีตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน มาตรา 31 ข้อ 2 ของกลางริบ
จำเลยฎีกาขอให้รอการลงอาญา โดยมีอธิบดีศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางอนุญาตให้ฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
ศาลฎีกา เห็นว่าการอนุญาตให้ฎีกาหรือรับรองฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 นั้น จะต้องเป็นคดีที่มีปัญหาข้อเท็จจริงดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 218, 219 และ 220 แต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชนตัดสินให้ส่งตัวจำเลยไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมซึ่งไม่มีปัญหาข้อเท็จจริงเลยทั้งกรณีเช่นนี้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 มาตรา 27 - 29 ห้ามไม่ให้คู่ความอุทธรณ์ฎีกา ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามไม่รับวินิจฉัย จึงให้ยกฎีกาจำเลย
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









