ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20 กันยายน 2505 ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2507 จำเลยบังอาจสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงนายไต๋ แซ่หวุ่น และผู้เสียหายอื่นอีกรวม 6 คน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จโดยจำเลยทั้งสองเป็นผู้ชักชวนให้ผู้เสียหายทั้ง 6 คน นำเงินมามอบให้กับจำเลยให้ครบกำหนดจำนวนครั้งที่จำเลยทั้งสองได้กำหนด แล้วผู้เสียหายจะได้รับเงินคืนทั้งหมด โดยจำเลยทั้งสองให้คำรับรองอันเป็นเท็จว่าจำเลยทั้งสองนำเงินนั้นไปลงแชร์กับผู้อื่น เมื่อผู้เสียหายส่งเงินครบตามกำหนดครั้งแล้ว จำเลยทั้งสองจะคืนเงินทั้งหมดพร้อมกับผลประโยชน์อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของเงินทุน ตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันเก็บเงินจากผู้เสียหายทั้ง 6 คนไปเป็นเงิน 101,400 บาท ครั้นเมื่อจวนจะครบจำนวนครั้งที่จำเลยทั้งสองกำหนด จำเลยทั้งสองปฏิเสธไม่ยอมรับเงินที่ผู้เสียหายจะส่งต่อไปอีก ทั้งปฏิเสธไม่จ่ายเงินที่ผู้เสียหายทั้ง 6 คนได้ส่งมอบไปเป็นจำนวน 101,400 บาท นั้นด้วย ทั้งนี้ โดยจำเลยทั้งสองมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ตนเสีย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว สั่งงดสืบพยานจำเลยและวินิจฉัยว่าคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่อาจเข้าใจข้อความที่จำเลยกล่าวนั้นเป็นเท็จทุกตอนทุกถ้อยคำ เพราะโจทก์ไม่ได้กล่าวความจริงเป็นอย่างไร เพียงไหน ไม่เป็นฟ้องที่ระบุความพอสมควรเท่าที่ให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี พิพากษายกฟ้อง

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าในฟ้องอาญานั้น โจทก์จะต้องระบุว่าการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี แต่คำฟ้องของโจทก์บรรยายแต่เพียงว่า จำเลยทั้งสองหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่า ให้ผู้เสียหายนำเงินมามอบให้กับจำเลยเพื่อเอาไปลงแชร์ และให้คำรับรองอันเป็นเท็จว่าถ้าส่งเงินครบแล้วจำเลยจะคืนเงินพร้อมทั้งผลประโยชน์ให้ จำเลยทั้งสองได้เก็บเงินจากผู้เสียหายไปจวนครบจำนวนแล้วปฏิเสธไม่ยอมรับและไม่ยอมคืนเงิน โดยตามคำฟ้องมิกล่าวว่าความจริงเป็นอย่างไรเพื่อที่จะแสดงให้เข้าใจได้ว่าจำเลยทั้งสองหลอกลวงผู้เสียหายตรงไหน ฉะนั้น คำฟ้องในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องที่ระบุความพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th