ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 180, 264, 265, 267, 334, 335, 341, 352, 353, 357, 358 และขอให้ริบทรัพย์ ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอผลคำพิพากษาถึงที่สุดของคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 630/2554 ของศาลชั้นต้นก่อนแล้วให้คู่ความแถลงเพื่อยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องต่อไป ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ถึงแก่ความตาย นางสาวนันจาหรือเขมจิรา บุตรโจทก์ ยื่นคำร้องขอเข้าดำเนินคดีต่างผู้ตาย ศาลชั้นต้นอนุญาต เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องเสร็จแล้ว มีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า พยานบุคคลและพยานเอกสารเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงถึงจำเลยทั้งหก คดีมีมูลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 180, 264, 265, 334, 335, 341, 352, 353, 357, 358 จึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา

จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 167, 187 และคำแนะนำของประธานศาลฎีกา ขอให้เพิกถอนคำสั่งคดีมีมูล แล้วมีคำสั่งใหม่ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและประมวลกฎหมายอาญา

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว จึงได้มีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 167, 187 โดยได้แสดงเหตุผลตามสมควรประกอบ ตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับการไต่สวนมูลฟ้องด้วยแล้ว กรณีจึงไม่มีเหตุให้เพิกถอนคำสั่งเดิม ยกคำร้อง

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งคดีมีมูลโดยอ้างว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ แล้วมีคำสั่งใหม่ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและประมวลกฎหมายอาญา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ดังนี้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่เพิกถอนกระบวนพิจารณาคำสั่งคดีมีมูล เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีของจำเลยที่ 1 เสร็จสิ้นไป เพราะศาลชั้นต้นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งหกต่อไป กรณีต้องด้วยบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ที่ห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญแก่คดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ไว้วินิจฉัย จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่มีผลให้จำเลยที่ 1 มีสิทธิฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 1

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และยกฎีกาของจำเลยที่ 1

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th