ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบุกรุกที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ 2 ได้ขอให้อำเภอออกใบเหยียบย่ำให้โดยไม่ชอบ จึงขอให้พิพากษาว่าใบเหยียบย่ำของจำเลยที่ 2 เป็นโมฆะ ที่รายพิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับโดยอ้างว่าในใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ให้สิทธิในการอุทธรณ์โดยเขียนไว้กว้าง ๆ ว่า "ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด" เท่านั้น
ทนายโจทก์ร้องอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องของทนายโจทก์
โจทก์ฎีกาขอให้รับอุทธรณ์
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่าใบแต่งทนายไม่ได้ระบุให้ชัดแจ้งว่าให้มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาแทนโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ตามมาตรา 232 แล้วผู้อุทธรณ์ได้ยื่นคำร้องต่อมาตามมาตรา 234 ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์คงมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นเช่นนี้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามมาตรา 236 จึงให้ยกฎีกาโจทก์เสีย
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








