ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภริยากันเมื่อ พ.ศ. 2508 และได้ตกลงจดทะเบียนหย่ากันเมื่อ พ.ศ. 2519 หลังจากหย่าจากจำเลยแล้วโจทก์ยากจนลงจึงฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่าเลี้ยงชีพแก่โจทก์เดือนละ 1,000 บาท

จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเลี้ยงชีพ จำเลยเองก็เป็นคนยากจนมีบุตรที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูถึง 4 คน เงินเดือนที่จำเลยได้รับอยู่ก็ไม่พอเลี้ยงชีพอยู่แล้วโจทก์มีฐานะดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเดือนละ 800 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะฟ้อง คดีนี้เป็นเวลาที่บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่มีผลใช้บังคับแล้ว มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519 ให้ยกเลิกบทบัญญัติบรรพ 5 เดิม และให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 ใหม่นี้แทน เว้นแต่ในกรณีที่พระราชบัญญัตินี้บัญญัติยกเว้นเป็นอย่างอื่น ซึ่งก็ไม่ปรากฏว่ามีบทบัญญัติยกเว้นไว้ในเรื่องนี้ ฉะนั้น การวินิจฉัยปัญหาค่าเลี้ยงชีพจึงต้องอาศัยมาตรา 1526 ที่ตรวจชำระใหม่ซึ่งให้เรียกได้ต่อเมื่อมีคดีหย่า และถ้าเหตุแห่งการหย่านั้นเป็นความผิดของคู่สมรสฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแต่ฝ่ายเดียว และการหย่านั้นทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลง และสิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงชีพนั้นกฎหมายมาตราดังกล่าวบัญญัติให้เป็นที่สุดถ้ามิได้ฟ้องหรือฟ้องแย้งในคดีหย่านั้น

ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่า โจทก์จำเลยได้ตกลงหย่ากันเองและจดทะเบียนหย่ากันด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายโดยไม่มีคดีฟ้องหย่าต่อศาล จึงไม่มีกรณีที่จะถือได้ว่าเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของฝ่ายใด การที่โจทก์จำเลยทำสัญญาหย่ากันเองนั้น แต่ละฝ่ายย่อมต้องรู้ดีว่าหลังจากหย่าแล้วตนจะต้องเป็นที่พึ่งของตนเอง คู่สมรสชอบที่จะทำความตกลงในเรื่องค่าเลี้ยงชีพไว้เพื่อให้มีผลบังคับในรูปสัญญาประนีประนอมยอมความในการหย่า หากไม่ได้ทำความตกลงกันไว้ก็ย่อมไม่มีเหตุตามกฎหมายที่จะมาเรียกร้องค่าเลี้ยงชีพจากอีกฝ่ายหนึ่งหลังจากหย่าแล้วได้ ศาลฎีกาได้พิเคราะห์สัญญาหย่าระหว่างโจทก์จำเลยแล้วแต่ไม่ปรากฏว่ามี

ที่โจทก์ฎีกาว่าเคยฟ้องแย้งเรียกค่าเลี้ยงชีพในคดีที่จำเลยฟ้องขอแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาจากโจทก์ แต่ศาลแพ่งไม่รับฟ้องแย้งจึงได้มาฟ้องเป็นคดีนี้นั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วมาตรา 1526 ดังกล่าวบัญญัติไว้ชัดว่าการฟ้องหรือฟ้องแย้งเรียกค่าเลี้ยงชีพนั้นจะต้องกระทำในคดีหย่า แต่ฟ้องแย้งที่โจทก์อ้างมานี้เป็นฟ้องแย้งในคดีแบ่งทรัพย์สิน ไม่เข้ามาตรา 1526 สิทธิของโจทก์เป็นอันสิ้นสุดไปพร้อมกับการหย่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th