ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า ขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ 1 ที่ 50/2556 และพิพากษาให้โจทก์ชำระค่าคอมมิสชันที่ค้างชำระแก่จำเลยที่ 2 จำนวน 16,367 บาท เท่านั้น

จำเลยทั้งสอง ให้การว่าขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ซึ่งสรุปได้ว่าการที่โจทก์มีประกาศหักเงิน และจำเลยที่ 2 ลงชื่อยอมรับผิดในแบบพิมพ์รายงานสินค้าขาด - เกินจากการตรวจนับสต็อก โจทก์จะมีสิทธิหักเงินประกันการทำงานของจำเลยที่ 2 ได้หรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 10 วรรคสองที่บัญญัติว่า "ในกรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับหลักประกัน หรือทำสัญญาประกันกับลูกจ้างเพื่อชดใช้ความเสียหายที่ลูกจ้างเป็นผู้กระทำ เมื่อนายจ้างเลิกจ้าง หรือลูกจ้างลาออกหรือสัญญาประกันสิ้นอายุ ให้นายจ้างคืนหลักประกันพร้อมดอกเบี้ยถ้ามี ให้แก่ลูกจ้างภายในเจ็ดวัน นับแต่วันที่นายจ้างเลิกจ้าง หรือวันที่ลูกจ้างลาออก หรือวันที่สัญญาประกันสิ้นอายุ แล้วแต่กรณี" หมายความว่า ในกรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับหลักประกันที่เป็นเงินและลูกจ้างกระทำในทางการที่จ้างก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างจึงมีสิทธินำเงินดังกล่าวไปชดใช้ให้แก่นายจ้างตามเงื่อนไขของการเรียกหรือรับเงินประกัน หรือตามข้อตกลง หรือได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง ดังนั้น การที่นายจ้างจะมีสิทธิหักเงินประกันหรือนำเงินประกันไปชดใช้ค่าเสียหายได้นายจ้างต้องได้รับความเสียหายก่อน หากนายจ้างไม่ได้รับความเสียหายก็ย่อมไม่มีสิทธิดังกล่าว นายจ้างจะอาศัยข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน คำสั่ง หรือประกาศของนายจ้างมาหักเงินประกันการทำงานหรือประกันความเสียหายของลูกจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายย่อมไม่ได้ มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นว่าวัตถุประสงค์ของการเรียกหรือรับเงินประกันการทำงานหรือประกันความเสียหายจะขยายไปเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือขยายไปตามอำเภอใจของนายจ้าง เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงมาว่าสต็อกสินค้าที่อยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 2 เกินจำนวน 12 ชิ้น โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างไม่ได้รับความเสียหาย เช่นนี้โจทก์จึงไม่มีสิทธิหักเงินประกันของจำเลยที่ 2 ดังนั้นโจทก์จะอาศัยประกาศการหักเงิน หรือแบบพิมพ์รายงานสินค้าขาด - เกินจากการตรวจนับสต็อก ที่จำเลยที่ 2 ยินยอมรับผิดกรณีสินค้าเกินสต็อกมาหักเงินประกันของจำเลยที่ 2 โดยโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายย่อมไม่ได้ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น ส่วนอุทธรณ์ข้ออื่นของโจทก์ไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ร.1613/2557

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th