ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี โดยศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ในวันเดียวกันนั้นจำเลยยื่นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลย ต่อมาวันที่ 16 มีนาคม 2558 โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาไปถึงวันที่ 18 เมษายน 2558 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต ครั้นวันที่ 31 มีนาคม 2558 จำเลยยื่นคำร้องขอถอนฎีกาและขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า อนุญาตให้จำเลยถอนฎีกา รับตัวไว้หมายจำคุกถึงที่สุด หากโจทก์ฎีกาให้เพิกถอนหมายจำคุกถึงที่สุด

วันที่ 2 เมษายน 2558 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งที่ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จำเลย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การอนุญาตให้จำเลยถอนฎีกาเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับศาล ไม่มีกฎหมายใดให้ศาลถามโจทก์ก่อนอนุญาตให้จำเลยถอนฎีกา ให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จำเลย และในกรณีที่โจทก์ไม่ยื่นฎีกา ให้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จำเลยในวันสุดท้ายที่โจทก์มีสิทธิยื่นฎีกาได้

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 ประกอบพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3 บัญญัติว่า "ในกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติในพระราชบัญญัตินี้บังคับ ให้คงใช้กฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งบังคับ" ซึ่งตามมาตรา 147 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง บัญญัติว่า "คำพิพากษาหรือคำสั่งใด ซึ่งอาจอุทธรณ์ฎีกา หรือมีคำขอให้พิจารณาใหม่ได้นั้น ถ้ามิได้อุทธรณ์ ฎีกาหรือร้องขอให้พิจารณาใหม่ภายในเวลาที่กำหนดไว้ ให้ถือว่าเป็นที่สุดตั้งแต่ระยะเวลาเช่นว่านั้นได้สิ้นสุดลง …." คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาและศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ถึงวันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2558 แม้การใช้สิทธิฎีกาจะเป็นสิทธิเฉพาะตัวของคู่ความ และจำเลยใช้สิทธิฎีกาและขอถอนฎีกาแล้วก็ตาม แต่โจทก์อาจฎีกาได้ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาไว้ ดังนั้น จะถือว่าคดีถึงที่สุดในวันที่ 31 มีนาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยถอนฎีกาตามคำสั่งของศาลชั้นต้นหาได้ไม่ คดีจึงถือว่าเป็นที่สุดเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของวันสุดท้ายที่โจทก์อาจฎีกาได้ คือวันที่ 20 เมษายน 2558 หรือกรณีที่โจทก์ยื่นฎีกาภายในระยะเวลาดังกล่าว ถือว่าเป็นที่สุดเมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟัง ที่จำเลยขอให้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดย้อนหลังไปในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดยื่นฎีกาของจำเลย หรือวันที่ 31 มีนาคม 2558 ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้จำเลยถอนฎีกา จึงไม่อาจกระทำได้ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าคดีหลักโจทก์ยื่นฎีกาและศาลฎีกามีคำพิพากษาพร้อมคดีนี้แล้ว ดังนี้ คดีย่อมถึงที่สุดเมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหลักให้คู่ความฟัง ศาลฎีกาจึงเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้อง

พิพากษายืน แต่ให้ศาลชั้นต้นออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดจำเลยใหม่ โดยระบุว่าคดีถึงที่สุดในวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหลักให้คู่ความฟัง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ2284/2558

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th