ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 34587ให้แก่โจทก์ และรับเงินส่วนที่โจทก์ยังคงค้างชำระอยู่จำนวน272,500 บาท หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 34587หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เนื้อที่ 45 ไร่เศษ ให้แก่โจทก์และรับเงินราคาที่ดินจำนวน 272,500 บาท จากโจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยประการแรกว่า ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและงดสืบพยานจำเลยเป็นการชอบหรือไม่ เห็นว่า คู่ความจะร้องขอเลื่อนคดีติดต่อกันได้ต้องเป็นกรณีที่มีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคหนึ่ง และการอนุญาตให้เลื่อนคดีหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล ข้อเท็จจริงได้ความว่า ในการสืบพยานจำเลย ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกทนายจำเลยอ้างว่าจำเลยป่วยครั้งที่สองทนายจำเลยอ้างว่า ไปงานเลี้ยงดึกและตอนเช้าท้องเสียไม่สามารถสืบพยานได้ ศาลชั้นต้นให้โอกาสจำเลยโดยกำชับทนายจำเลยไว้ทั้ง 2 ครั้ง ว่าให้เตรียมพยานมาให้พร้อมเมื่อถึงวันนัดครั้งที่สามผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีของทนาย จำเลยมายื่นต่อศาลชั้นต้นโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่สามารถมาว่าความได้เพราะได้ว่าความในตอนเช้าและมีอาการปวดศีรษะเนื่องจากความดันโลหิตสูงตามคำร้องฉบับลงวันที่ 11 เมษายน 2540 เห็นได้ว่าแม้ตามคำร้องดังกล่าวทนายจำเลยอ้างว่าปวดศีรษะ แต่ไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงว่าอาการปวดศีรษะดังกล่าวเป็นความเจ็บป่วยจนถึงกับไม่สามารถมาศาลได้อันเป็นเหตุผลตามกฎหมายในข้อที่ว่ามีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ นอกจากนี้ทนายจำเลยก็ไม่ได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลชั้นต้นว่าถ้าศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ตามพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยมีเจตนาหน่วงเหนี่ยวให้คดีล่าช้าโดยปราศจากเหตุอันสมควรทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นได้กำชับให้ทนายจำเลยเตรียมพยานให้พร้อมทั้ง 2 ครั้งแล้ว จึงเป็นการประวิงคดีที่จำเลยอ้างในฎีกาว่าทนายจำเลยป่วยจริงและเป็นการป่วยกะทันหัน ศาลชั้นต้นควรตั้งเจ้าพนักงานศาลหรือแพทย์ไปตรวจอาการเจ็บป่วยของทนายจำเลยก่อนที่จะมีคำสั่งว่าจำเลยประวิงคดีนั้น เห็นว่า ศาลชั้นต้นจะตั้งเจ้าพนักงานศาลหรือแพทย์ไปตรวจอาการเจ็บป่วยของทนายจำเลยว่าทนายจำเลยป่วยจริงหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 41 วรรคหนึ่ง ต้องเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งดังกล่าวก็ได้ เห็นได้ว่าบทบัญญัติดังกล่าวมิได้บังคับเด็ดขาดให้ศาลชั้นต้นต้องมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานศาลหรือแพทย์ไปตรวจอาการเจ็บป่วยเสมอไปเมื่อไม่มีคู่ความฝ่ายใดร้องขอให้ศาลชั้นต้นตั้งเจ้าพนักงานศาลหรือแพทย์ไปตรวจอาการเจ็บป่วยของทนายจำเลยการที่ศาลชั้นต้นพิจารณาถึงพฤติการณ์ต่าง ๆ และเห็นว่าทนายจำเลยยังสามารถมาว่าความได้จึงไม่เชื่อว่าทนายจำเลยจะป่วยจริงเช่นนี้เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจว่าไม่สมควรมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานศาลหรือแพทย์ไปตรวจอาการเจ็บป่วยของทนายจำเลยนั่นเอง ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและงดสืบพยานจำเลยจึงชอบแล้ว และศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริง คดีฟังได้ว่าจำเลยมอบอำนาจให้นายซิ่นทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทกับโจทก์และโจทก์ชำระราคาที่ดินพิพาทบางส่วนเป็นเงิน 20,000 บาท ให้แก่นายซิ่นแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th