ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้กำลังกายเตะ ถีบ และมีมีดกับปืนเป็นอาวุธโดยใช้เท้าเตะ ถีบโจทก์ตกจากร้านอาหารล้มลง ทันใดนั้นได้ใช้มีดพกปลายแหลมเข้าจ้วงแทงบริเวณหน้าอกโจทก์ มีผู้มาขัดขวาง จำเลยจึงแทงโจทก์ไม่ตาย แล้วจำเลยวิ่งไปที่บ้านจำเลยเอาปืนสั้นมายิงโจทก์ 1 นัด แต่พลาดไม่ถูก โดยจำเลยไตร่ตรองไว้ก่อนขอให้ลงโทษตามมาตรา 288, 289(4), 80

จำเลยให้การปฏิเสธ

ทางพิจารณาได้ความว่า วันเกิดเหตุเวลา 8.00 น. จำเลยได้ทำร้ายร่างกายนายสุชาติที่ร้านนายประเสริฐ หลังจากนั้นราว 10 นาทีเมื่อนายสุชาติและจำเลยกลับจากร้านนายประเสริฐแล้ว จำเลยได้ยิงปืนที่บ้านจำเลย ขณะนั้นนายสุชาติอยู่ข้างบ้านนายเอี่ยม ต่อมาจำเลยถูกพนักงานอัยการฟ้องหาว่าใช้เท้าเตะทำร้ายร่างกายนายสุชาติและหาว่าใช้ปืนยิงผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยรับสารภาพ ศาลลงโทษจำเลยแล้วตามคดีแดงที่ 840/2507 และ 841/2507

ศาลชั้นต้นเห็นว่าสิทธินำคดีมาฟ้องระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรื่องใช้อาวุธปืน เหตุเกิดต่างเวลาและสถานที่กับเรื่องทำร้ายร่างกาย และคดีแดงที่ 840/2507 ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานใช้อาวุธปืนยิง เป็นผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ยังมิได้พิพากษาในความผิดเกี่ยวกับชีวิตฟ้องโจทก์ที่หาว่าจำเลยใช้ปืนยิงจึงไม่ซ้ำกับคดีแดงที่ 840/2507 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณาพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยใช้ปืนยิงหนึ่งนัดตามฟ้องคดีนี้เป็นการกระทำกรรมเดียววาระเดียวกับการกระทำของจำเลยซึ่งอัยการโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีแดงที่ 840/2507 โดยกล่าวหาแต่เพียงว่า จำเลยใช้ปืนสั้นยิงขู่ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้ใช้อาวุธปืน เมื่อศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จะเอาการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกันมาฟ้องจำเลยอีกโดยอ้างว่าศาลยังมิได้พิพากษาในความผิดที่เกี่ยวกับชีวิตซึ่งอัยการอาจฟ้องไปในคดีนั้นได้ แต่มิได้ฟ้องนั้นไม่ได้ เพราะมาตรา 39 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติว่า สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป (4) เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง นั้น ไม่ได้หมายถึงในฐานความผิดแต่หมายถึงการกระทำที่ก่อให้เกิดความผิดนั้น ๆ ดังนั้น ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ระงับไปแล้ว พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th