ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงนายสมมาตร์หลายครั้งโดยมีเจตนาฆ่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นพ้นโทษมาไม่เกิน5 ปี ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 92
จำเลยให้การว่ามิได้มีเจตนาฆ่า แต่รับข้อเคยต้องโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 และเพิ่มโทษตามมาตรา 92 หนึ่งในสาม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 เพิ่มโทษหนึ่งในสาม
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยและนายสมมาตร์ผู้เสียหายเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนจำเลยเป็นคนดื่มสุราแล้วสติไม่ดี วันเกิดเหตุจำเลยเมาสุราจนไม่รู้เรื่อง จำเลยไล่แทงผู้เสียหายหลายครั้ง แต่แทงไม่ค่อยถูก บาดแผลที่แทงถูกก็เป็นบาดแผลตื้น ๆผู้เสียหายรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียง 1 วัน แพทย์ก็ให้ออกมารักษาข้างนอกและรักษาประมาณ 20 วันก็หายเป็นปกติ อาวุธมีดที่ใช้มีลักษณะเป็นมีดปอกผลไม้เมื่อผู้เสียหายล้มลงและน้องสาวจำเลยร้องให้คนช่วยผู้เสียหาย จำเลยก็ผละไปไม่ได้ซ้ำเติม ตามพฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่น่าเชื่อว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายและสำหรับในข้อเพิ่มโทษจำเลยนั้น ปรากฏว่าตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2526 มาตรา 4 บัญญัติให้ถือว่ามิได้เคยถูกลงโทษในความผิดนั้น ๆ ฉะนั้นจึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








