ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 288, 289 และริบหัวกระสุนปืนหมวกนิรภัยและธนบัตรจำนวน 50 บาท ของกลาง

จำเลยไม่ได้ให้การ ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (ที่ถูกประกอบ มาตรา 83 ด้วย) ลงโทษประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (ที่ถูก 52 (1)) คงจำคุกตลอดชีวิต ริบหัวกระสุนปืน หมวกนิรภัยและธนบัตรจำนวน 50 บาทของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ขณะที่นาย บ. ซึ่งมีอาชีพขับรถยนต์โดยสารสองแถวรับจ้างสายลำปาง-แจ้ห่ม จอดรถให้คนร้ายซึ่งโดยสารมากับรถลงจากรถในที่เกิดเหตุ ได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถึงแก่ความตายแล้วคนร้ายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของจำเลยหลบหนีไป คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยร่วมกับคนร้ายที่หลบหนีกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า แม้โจทก์จะไม่ได้ตัวนาง ว. และนาง ศ. มาเบิกความในชั้นพิจารณาก็ตาม แต่ก็ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติห้ามมิให้รับฟังบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของพยานทั้งสอง เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พนักงานสอบสวนบันทึกคำให้การของพยานทั้งสองไว้ไม่ถูกต้อง จึงรับฟังบันทึกคำให้การของพยานทั้งสองประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้ รถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับมาเป็นของคนรักของจำเลยซึ่งปรากฏตามทางนำสืบของโจทก์ว่า มีแผ่นป้ายทะเบียนถูกต้อง แต่ขณะเกิดเหตุกลับปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ดังกล่าวมิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน แสดงให้เห็นว่าจำเลยเตรียมการมาเพื่อรับคนร้ายหลบหนีตามที่ร่วมกับคนร้ายวางแผนไว้ เพราะก่อนเกิดเหตุคนร้ายเดินเข้าไปชำระค่าโดยสารให้แก่ผู้ตาย แล้วได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทันทีโดยไม่ปรากฏว่ามีการโต้เถียงกันหรือทะเลาะกันแต่อย่างใด อันเป็นการวางแผนโดยไตร่ตรองไว้ก่อนซึ่งรวมถึงแผนในการหลบหนีด้วยว่าจะหลบหนีด้วยยานพาหนะอะไร พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยร่วมกับคนร้ายที่หลบหนีกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

อนึ่งธนบัตรฉบับละ 50 บาท ของกลางเป็นธนบัตรที่คนร้ายส่งให้แก่ผู้ตายเป็นค่าโดยสาร ก่อนที่ผู้ตายถูกยิง และหมวกนิรภัยที่จำเลยสวมขณะเกิดเหตุอันเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 122มิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดโดยตรง ทั้งโจทก์ก็มิได้นำสืบให้เห็นชัดว่าจำเลยมีเจตนาสวมเพื่อปกปิดใบหน้าในการกระทำผิด ดังนั้น ธนบัตร 50 บาทและหมวกนิรภัยของกลางดังกล่าวจึงมิใช่ของที่ใช้ในการกระทำความผิดที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ริบ จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

พิพากษายืน แต่ไม่ริบธนบัตร 50 บาทและหมวกนิรภัยของกลาง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th