ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า นายบรรลือผู้ตายบิดาโจทก์ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์บางส่วนให้โจทก์ ต่อมาทายาทของผู้ตายรวมทั้งนางสมบุญซึ่งเป็นมารดาจำเลยที่ 1 และเป็นภรรยาของผู้ตายได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ใจความว่านางสมบุญและทายาททุกคนยอมถือปฏิบัติตามพินัยกรรม แต่เนื่องจากทายาทบางคนได้ตายไปก่อนเจ้ามรดก จึงได้ตกลงประนีประนอมยอมความโดยการแบ่งส่วนทั้งหมดออกเป็น 97 ส่วน ทายาทแต่ละคนได้ส่วนที่แน่นอนตามที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยที่ 1 เข้าเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายไม่ยินยอมแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ตามสัญญา โดยอ้างว่าทรัพย์สินตามพินัยกรรมต้องแบ่งออกเป็นของนางสมบุญครึ่งหนึ่งก่อน ที่เหลือจึงแบ่งให้ทายาท โจทก์ได้ฟ้องนางสมบุญต่อศาลขอให้แบ่งทรัพย์สินตามพินัยกรรม คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 1 แบ่งทรัพย์ให้

ศาลชั้นต้นเห็นสมควรเรียกนางสมบุญเข้ามาเป็นจำเลยด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3) นางสมบุญจึงเข้ามาเป็นจำเลยที่ 2

จำเลยทั้งสองให้การว่า นางสมบุญเป็นภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายเพียงคนเดียว ผู้ตายไม่มีสิทธินำสินบริคณห์อันเป็นสินสมรสส่วนของจำเลยที่ 2ครึ่งหนึ่งไประบุไว้ในพินัยกรรม โจทก์เคยฟ้องจำเลยที่ 2 ต่อศาลขอแบ่งมรดกอย่างเดียวกับคดีนี้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นฟ้องซ้อน

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้อน ผู้ตายไม่มีสิทธินำส่วนของจำเลยที่ 2 ไปทำพินัยกรรมยกให้แก่ผู้อื่น การที่จำเลยที่ 2 ลงชื่อในข้อตกลงทายาทมีความหมายเพียงว่าจำเลยที่ 2 ยอมแบ่งทรัพย์ของผู้ตายตามพินัยกรรมเท่านั้น ไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 ที่จะต้องยอมแบ่งสินสมรสส่วนของตนให้แก่ทายาทอื่นด้วย จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายจึงไม่ต้องแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ตามฟ้อง พิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม โดยให้กันสินบริคณห์สมรสส่วนของจำเลยที่ 2 ออกครึ่งหนึ่งก่อน

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างทายาทนั้น จำเลยที่ 2แสดงออกทั้งในฐานะทายาทและคู่สมรสผู้ตาย ยอมให้เอาสินบริคณห์ส่วนของตนเข้ากองมรดกแบ่งให้แก่ทายาท เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ มีผลบังคับได้ พิพากษาแก้ ให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ตามบันทึกข้อตกลง

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า บันทึกของทายาทเป็นการแบ่งทรัพย์กันนอกเหนือไปจากข้อกำหนดในพินัยกรรม มีการแบ่งทรัพย์กันตามข้อกำหนดของพินัยกรรมบางข้อเท่านั้น ฟังได้ว่าทายาทผู้ตายไม่ถือว่าจะต้องแบ่งทรัพย์กันตามพินัยกรรม แต่หากต่างตกลงแบ่งกันตามที่เห็นสมควร เพื่อเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน ข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850แต่ละฝ่ายจึงได้สิทธิตามที่แสดงไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 852 และเห็นว่าจำเลยที่ 2 ยอมตกลงด้วยทั้งในฐานะทายาทและภรรยาผู้ตายด้วย สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวไม่ใช่เป็นการที่จำเลยที่ 2 ยกสินสมรสส่วนของตนให้ผู้อื่น จึงไม่ต้องทำตามแบบที่กฎหมายกำหนดสำหรับการยกให้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th